เชียงราย-โค้งสุดท้ายใกล้การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยยกทีมปราศรัยชุดใหญ่ เดินสายหาเสียงช่วยผู้สมัคร สส.ปิดช่องโหว่กำจัดจุดอ่อน หวังฉุดเรทติ้ง ทิ้งคู่แข่งยกทีมทั้งจังหวัด ขณะผู้ท้าชิงเดินหน้าสู้ทุกเม็ดบ่อยั่น ใครจะอยู่ใครจะไปต้องวัดใจประชาชนกันในวันที่ 24 มีนาคม 2562
เวลา 16.00 น. วันนี้ (10 มี.ค.) ณ สนามโรงเรียนศรีดอนชัย ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นำโดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีฯ พร้อมด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์,นายปลอดประสพ สุรัสวดี,นายอดิศร เพียงเกตุ,นางลดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ พร้อมผู้สมัคร สส.เขตพื้นที่ จ.เชียงราย ของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำคนสำคัญของพรรค ได้เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ผู้สมัคร สส.ของพรรคฯ ในเขตเลือกตั้ง ที่ 5 โดยมีประชาชนและแฟนคลับในเขต ทยอยเดินทางมาจับจองพื้นที่นั่งฟังการปราศรัยตั้งแต่ช่วงบ่ายโมง ก่อนถึงเวลาเปิดเวทีจำนวนเกือบ 1 หมื่นคน ท่ามกลางเปลวแดดที่ร้อนระอุ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญ เป็นการแข่งขันของฝ่ายประชาธิปไตย และฝ่ายเผด็จการ ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยมั่นคงอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยมาตลอด โดยฝ่ายเผด็จการจะใช้การเลือกตั้งเข้ามาสู่อำนาจการปกครอง พี่น้องประชาชนต้องเลือกให้ดี ที่ผ่านมาปัญหาหลักของประเทศเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องปากท้อง การเลือกพรรคที่อยู่ฝั่งประชาธิปไตยถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะว่าฝ่ายประชาธิปไตยเขาเข้าใจพี่น้อง ที่ต้องทำมาหากิน และจะหาทางออกให้พี่น้องประชาชนได้ อันนี้แหล่ะที่เรียกว่าประชาธิปไตยกินได้ ใครเลือกเราไป เราก็จะไปรับใช้คนนั้น ไม่เหมือนรัฐบาลนี้ที่ดูแลแต่บริษัทใหญ่ ออกบัตรคนจนมาก็ไม่สามารถนำไปซื้อของในตลาดได้ ต้องไปซื้อผ่านร้านประชารัฐทำให้เงินถูกดูดกลับไปสู่บริษัทใหญ่ทั้งหมด
นายชัชชาติ ยังกล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเราได้เน้นนโยบายใน 4 เรื่องคือ เรื่องแรก การปรับหนี้ ธกส.หรือหนี้อื่น ๆ ที่เป็นภาระของประชาชน จากนั้นจะต้องเติมเงินให้ประชาชนเพื่อใช้เป็นช่องทางในการลงทุนประกอบอาชีพแก่ประชาชน อย่างที่ 3 ลดต้นทุนการผลิต เช่นปรับลดภาษีน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันถูกลง และ 4.สร้างโอกาสให้ประชาชนมีช่องทางในการหารายได้เพิ่มขึ้น รัฐบาลที่เก่ง คือรัฐบาลที่มีความสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนให้มีความมั่งคั่งได้เท่านั้น
สำหรับตน มองว่า เชียงของ และพื้นที่จังหวัดเชียงราย สิ่งที่เป็นหัวใจหลักคือการเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ซึ่งได้เปิดมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว เราจะปรับปรุงระเบียบการขนส่ง ปรับปรุงระบบการทำงาน ให้มีความสะดวกต่อการลงทุน และก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ มาสู่ประเทศ และตกกลับมาคืนสู่ประชาชนในพื้นที่ด้วย ส่วนการหาตลาดที่เป็นช่องทางกระจายสินค้า ทุกวันนี้ ในประเทศจีนที่มีประชากรใกล้ 1,600 ล้านคนเข้าไปแล้ว ประเทศไทยเราตั้งอยู่ตรงทางผ่าน เรามีภูมิประเทศที่ได้เปรียบในหลายด้านมากกว่าประเทศในอินโดจีน ทั้งหมด เรามีด่านเชียงของ เชียงแสน และแม่สาย หากเราสามารถนำสินค้าที่เรามีอยู่เป็นจำนวนมากส่งออกไปขายยังประเทศจีนได้ ก็จะสามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศได้จำนวนมหาศาล เราจะส่งเสริมการค้าการลงทุน เชื่อมโยงเส้นทางกับสปป.ลาว เพื่อส่งสินค้าออกไปสู่ต่างประเทศ และเราจะเป็นเมืองโลจิสติกส์ ที่สมบูณ์แบบ
จากนั้น นายชัชชาติ และคณะ ได้ลงไปทักทายประชาชน พร้อมสอบถามข้อมูลเรื่องปากท้อง ความเป็นอยู่ และราคาพืชผลทางการเกษตร ปัญหาที่มีอยู่ และขอคะแนนประชาชนที่มารับฟังปราศัย โดยมีประชาชนที่มาฟังการปราศรัย ได้ขอถ่ายภาพคู่นายชัชชาติ พร้อมทั้งได้มอบดอกไม้ให้กำลัง และอวยพรขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้นายชัชชาติ กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ ขณะที่บนเวทียังมีบรรดาแกนนำคนสำคัญ ต่างๆ รวมทั้งผู้สมัคร สส.ในแต่ละเขต ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นปราศัยกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเรียกเสียงสนับสนุนจากคนในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 5 ให้สนับสนุน นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ผู้สมัคร สส.ของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวได้รายงานด้วยว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 5 ครอบคลุมพื้นที่ อ.เชียงของ,อ.เวียงแก่น,อ.ขุนตาล,อ.พญาเม็งราย และ อ.เชียงแสน (เฉพาะ ต.แม่เงิน) เป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน รวมทั้งในสมัยที่ผ่านมา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ก็เป็นอดีต สส.ในพื้นที่ด้วย การเลือกตั้งในครั้งนี้ นายพิเชษฐ์ ต้องเจอศึกหนักที่ นายบัวสอน ประชามอญ อดีต สส.พื้นที่นี้ จากพรรคไทยรักไทย ที่หลุดจากวงโคจร สส.เขต ของพรรคให้ไปลงเป็นปาร์ตี้สิส โดยให้นายพิเชษฐ์ มาลงสมัคร สส.เขตแทน ได้สร้างรอยร้าวกันในหัวใจกันมาตั้งแต่นั้น คราวนี้ นายบัวสอน กลับมาทวงคืนพื้นที่ ในนามพรรคพลังประชารัฐ โดยเป็นพรรคที่มีความโดดเด่น ไม่น้อยไปกว่าพรรคเพื่อไทย การหาเสียงแบบถึงลูกถึงคน ประกอบกับบารมีที่นายบัวสอน สมัยรัฐบาลของนายทักษิณ ก็ได้เคยนำกล้ายาง เข้ามาบุกเบิกแจกจ่ายแก่ประชาชนในเขตพื้นที่นี้ จนวันนี้ผลพวงดังกล่าวยังปรากฏเป็นรูปธรรมให้ชาวบ้านที่ลงมือปลูกยางในช่วงนั้น เก็บเกี่ยวผลผลิตจากผลงานของนายบัวสอน ได้แล้ว
นอกจากนี้ ยังมี นายพงษ์ทร ชยาตุลชาติ ผู้สมัครคนกันเองจากพรรคเพื่อชาติ เป็นอดีต สจ.ในเขตนี้ เกาะติดพื้นที่มาอย่างเหนียวแน่นและยาวนาน จะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรให้พลังเพื่อกระจายไปได้อีกทางหนึ่ง รวมทั้งที่มาแบบเงียบๆ คือ นายนภดล รักมนุษย์ พรรคพลเมืองไทย ของนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นผู้มากบารมีในกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น และพลังมวลชน สามารถที่จะรวบรวมคะแนนได้เป็นกลุ่มเป็นก้อน ได้ในระดับหนึ่ง ถือเป็นตัวแปรที่สำคัญ ที่ต้องจับตา พรรคเพื่อไทยจะสามารถรักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ได้หรือไม่ ต้องจับตามอง
ภายหลังจากการขึ้นเวทีปราศรัยที่ อ.เชียงของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้เดินทางไปช่วยนายอิทธิเดช แก้วหลวง ผู้สมัคร สส.ของพรรคฯ ในเขตเลือกตั้งที่ 6 ที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย ซึ่งในพื้นที่เลือกตั้งนี้ประกอบด้วย อ.แม่สาย,อ.ดอยหลวง,และ อ.เชียงแสน (ยกเว้น ต.แม่เงิน) โดยนายชัชชาติ พร้อมกับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นายอิทธิเดช แก้วหลวง และคณะ ได้เดินทางเยี่ยมประชาชน ทักทายบรรดาพ่อค้า-แม่ค้า ในตลาดสด อ.เชียงแสน เพื่อขอให้ลงคะแนนให้กับนายอิทธิเดช โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปคู่กันอย่างคึกคัก โดยพื้นที่ของ อ.เชียงแสน ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้จะเคยเป็นของพรรคเพื่อไทย ที่ยึดครองมาอย่างยาวนาน แต่ครั้งนี้มีลักษณะพิเศษที่มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละคนก็มีบรรดากองเชียร์ซึ่งเป็นเครือญาติของตนเองเป็นฐานคะแนนให้ นักวิเคราะห์จึงเชื่อว่าคะแนนเสียงของที่นี่จะกระจัดกระจาย ได้ไปกันคนละเล็กคนละน้อย ไม่เว้นแม้แต่นายอิทธิเดช การเดินลงพื้นที่หาเสียงช่วยของพรรคในครั้งนี้ สามารถฉุดกระแสเครือญาติให้กลับพลิกมาเลือกคนของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ต้องวัดใจคนเชียงแสนกันในวันที่ 24 มีนาคม ที่จะถึงนี้
มีรายงานข่าวล่าสุด วันที่ 16 มีนาคม 2562 พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีฯ พรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า จะมีประชาชนจำนวนมากมารอให้การต้อนรับ ประกอบกับผลงานต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การอนุมัติก่อสร้างทางรถไฟ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ จะเป็นประเด็นหยิบยกขึ้นมาใช้ในการหาเสียงในครั้งนี้ด้วย ซึ่งคงจะสร้างคะแนนให้กับผู้สมัคร สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ในฐานะที่สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลนี้ พร้อมกันนี้ยังได้ชู พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคพลังประชารัฐ ด้วย
