เชียงราย-ต้านไม่อยู่จุดฮอตสปอตพรึ่บโดยรอบจังหวัดข้างเคียง และประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งจุดลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยง ‘เทศบาลเชียงราย’ฉีดพ่นน้ำในชุมชน ส่วนสถานการณ์การบินยังไม่วิกฤตเตรียมพร้อมรถสเปรย์น้ำ และหัวฉีดแรงสูงบริเวณหัวรันเวย์ช่วยนักบิน
วันนี้ (15 มี.ค.) สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงรายเข้าขั้นวิกฤติติดต่อกันมาเป็นวันที่ 3 แล้ว ดาวเทียมได้ตรวจพบจุดฮอตสปอต ในหลายพื้นที่ โดยเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่วนอุทยานดอยหัวแม่คำ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 3107 และราษฎรบ้านหัวแม่คำ อีกจำนวน40 คน ได้เข้าไปทำการดับไฟป่าบริเวณวัดหัวแม่คำ ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตร นอกเขตวนอุทยานดอยหัวแม่คำ หมู่ 4 ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจึงสามารถดับไฟได้สำเร็จ มีพื้นที่เสียหายรวมประมาณ 50 ไร่ ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่หัวหน้าวนอุทยานฯ จำนวน 4 คน ออกลาดตระเวน และตรวจพบกลุ่มควันไฟขึ้นบริเวณด้านทิศเหนือ ขอพื้นที่วนอุทยานดอยหัวแม่คำ ใกล้แนวชายแดนไทยเมียนมาร์ จึงทำการเดินเท้าเข้าทำการดับไฟป่า ซึ่งต้องใช้วิธีเดินเท้าเข้าไปในจุดเกิดเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเริ่มทำการดับไฟจนสำเร็จ มีพื้นที่เสียหายไปประมาณ 5 ไร่ ส่วนสาเหตุ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ที่บ้านกิ่วจำปี หมู่ที่ 21(บ้านบริวารของบ้านห้วยสลัก) บ้านห้วยหญ้าไซ หมู่ที่ 9 บ้านห้วยสลัก หมู่ที่ 21 ตำบลป่าแดด อำเภอแม่สรวย ก็เกิดเหตุไฟป่าขึ้น เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่สรวย(ชร.7) ร่วมกับ ส่วนส่งเสริมควบคุมไฟป่าแม่สรวย ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลป่าแดด ชรบ. และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ได้ช่วยกันดับไฟป่าดังกล่าวจนสำเร็จและดับลงแล้วเช่นกัน
ในขณะที่ ชุดเฉพาะกิจเคลื่อนที่เร็ว (เหยี่ยวไฟ) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ก็ได้จัดชุดลาดตระเวนร่วมกับชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านห้วยตาช้าง ตรวจสอบพื้นที่เกิดไฟป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาวฝั่งซ้าย ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พิกัดที่ 47Q 542271 UTM 2184672 ภายหลังจากดาวเทียมระบบ VIIRS (Suomi NPP)ตรวจพบจุดความร้อน และช่วยกันดับไฟที่ตกค้างจนสำเร็จ มีพื้นที่เสียหายประมาณ 5 ไร่ สาเหตุคาดว่ามีคนจุดไฟเผาป่าเพื่อหาของป่า
ด้าน นายปกรณ์ สุริวรรณ นายอำเภอพญาเม็งราย ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงนำ สมาชิก อส. ร้อย อส.อ.พญาเม็งราย ที่ 15 ร่วมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.) และชุดปฏิบัติการดับไฟป่า อ.พญาเม็งราย สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันเทศบาลตำบลเม็งราย,เจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาป้องกันรักษาป่า ที่ ชร 8 และชุดดับไฟป่าบ้านเวียงหวาย หมู่ที่ 8 ตำบลเม็งราย ลงพื้นที่ดับไฟป่าบริเวณป่าชุมชน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนท้ายหมู่บ้าน จนสามารถควบคุมและดับไฟลงได้ สาเหตุอยู่ระหว่างการสืบสวน
ยังมีรายงานจาก เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูชี้ฟ้าฯ เกิดเหตุไฟป่าลุกลามเข้ามาจากประเทศเพื่อบ้านทางฝั่งลาว ในบริเวณบ้านร่มโพธิ์ไทย ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย จึงร่วมกับเครือข่ายการแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ ดำเนินการดับไฟไว้ได้เรียบร้อย
ที่ อ.แม่จัน นางวันดี ราชชมพู นายอำเภอแม่จัน ได้สั่งการให้องค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้รถดับเพลิงพ่นสเปรย์น้ำให้เพิ่มความชุ่มชื้นในจุดที่ชมชนหนาแน่น ทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ยังปฎิบัติการเชิงรุก ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน โดยให้ออกประกาศเสียงตามสายของหมู่บ้านตั้งแต่เวลา 06.00 น และ 18.00 น. ของทุกวัน เพื่อทำความเข้าใจ สร้างความตระหนักรู้ถึงภัยที่เกิดจากการเผาป่าฯ รวมถึงการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจังให้ประชาชนทราบ
นอกจากนี้ยังได้ประสานงาน ร้อยทหารพรานที่ 3108 (ฉก.ทพ.31) ให้จัดกำลังพลเข้าพบชาวบ้านตำบลป่าตึง ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง และมีการทำกินในที่ดินของป่าไม้ด้วย ได้กำชับเรื่องการจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ หรือบุกรุกที่ดินทำกินใหม่ ซึ่งเป็นความผิดมีโทษตามกฎหมาย พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับทางราชการช่วยสอดส่องมิให้มีการเผาป่า และสนับสนุนการดับไฟป่ากรณีหากเกิดเหตุขึ้นด้วย ขณะที่ เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน อ.แม่จัน (ทสม.อ.แม่จัน) ได้มอบป้ายรณรงค์ และ สปอตวิทยุ ให้กับ ทสม.อ.เชียงแสน เพื่อส่งมอบให้กับสถานีวิทยุชุมชนในพื้นที่ รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักรู้เรื่องปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ต่อไป
ที่ป่าชุมชน หมู่ ๑๐ บ้านยกเจริญ ตำบลเมืองชุม อำเภอเวียงชัย นายสกล แก้วปวงคำ นายอำเภอเวียงชัย ก็ได้จัดกิจกรรมทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันเหตุไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ตำบลเมืองชุม อำเภอเวียงชัย โดยมี ว่าที่ร้อยตรีชัยยา พลอยแหวน นายกเทศมนตรีตำบลเมืองชุม คณะผู้บริหาร ข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ ชุด และประชาชน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ เทศบาลนครเชียงราย โดยนายวันชัย จงสุทธานามณี ยังได้สั่งการให้นำรถฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศ ในเขตเทศบาลฯ เพื่อลดภาวะฝุ่นละอองและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ อีกด้วย
โดยสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ของจังหวัดเชียงรายพบว่ามีปริมาณที่หนาแน่น โดยสถานีตรวจสภาพอากาศที่ อ.แม่สาย วัดค่า PM 2.5 สูงถึง 203 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ อ.เมือง วัดได้ 98 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงเกินค่ามาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ต่อข้อถามถึงผลกระทบต่อการจราจรทางอากาศ นายวีระศักดิ์ ชั้นบุญใส ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กล่าวว่ายังไม่ส่งกระทบต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน และสามารถบินขึ้น-ลง ได้อย่างปกติ ทัศนะวิสัยในการมองเห็นของนักบินอยู่ที่ 2,000 เมตร ถือว่ายังอยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยในการลงจอด แต่หากทัศนะวิสัยต่ำกว่า 800-550 ลงมา ทางหอบังคับการบินจะต้องประกาศ แจ้งเตือน LVC หรือ RVR ภาวะทัศนะวิสัยต่ำให้นักบินทราบ เพื่อปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่เวรควบคุมลานจอดอากาศยานประกาศ ให้มีความระมัดระวังความปลอดภัยแก่อากาศยาน
สำหรับการเตรียมความพ้อมหากสถานการณ์สภาพอากาศเลวร้ายไปกว่านี้ ได้จัดเตรียมรถสำหรับฉีดน้ำแรงดันสูงสู่อากาศลดปริมาณหมอกควันไว้ในที่ตั้งให้มีความพร้อมในการใช้งานอย่างทันท่วงที และได้จัดเตรียมสปริงเกอร์ฉีดพ่นละอองน้ำความดันสูงสามารถฉีดพ่นน้ำจากพื้นสู่อากาศได้สูงถึง 30 เมตร ติดตั้งไว้ที่หัวทางวิ่งด้านทิศใต้ของสนามบิน และสามารถใช้งานได้ทันทีที่กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากภาพถ่ายดาวเทียมตรวจพบจุดความร้อน พบว่าโดยรอบพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย มีจุดฮอตสปอต แสดงขึ้นโดยรอบ ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง และพะเยา นอกจากนี้ยังพบจุดฮอตสปอตหนาแน่น ในประเทศประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว และเมียนมา ซึ่งมีรายงานว่าทางการเมียนมา ได้จัดรถดับเพลิงจำนวน 4 คัน ทำการสเปรย์น้ำขึ้นสู่ท้องฟ้า เขตชุมชนหนาแน่นใน จ.ท่าขี้เหล็ก ตกลงมายังพื้นกระทบความร้อนของผิวจราจร ให้ระเหยเพิ่มความชุ่มชื้นสู่อากาศ สลับไปมาตลอดทั้งวันอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: