เชียงราย-สุดมันส์ เขต 1 สองขั้วเพื่อไทย-พลังประชารัฐ ลงสนามประชันนโยบายเดินหาเสียงอ้อนคะแนนพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดสด ฝ่ายหนึ่งจี้‘กกต.’ตรวจสอบซื้อเสียง ชูลดความเหลื่อมล้ำ ทำเศรษฐกิจกลับมาเข้มแข็ง ปะทะนโยบาย มารดาประชารัฐ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และนโยบายช่วยชาวนา คะแนนไล่เบียดชนิดหายใจรดต้นคอ ขณะกระแสอนาคตใหม่ยังมาแรง
เวลา 06.30 น.วันนี้ (21 มี.ค.) ที่บริเวณตลาดสดเทศบาล 1 นครเชียงราย นายสามารถ แก้วมีชัย ผู้สมัคร สส.เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 1 พรรคเพื่อไทย ได้นำทีมออกเดินปราศรัยหาเสียง พบปะกลุ่มพ่อค้า-แม่ค้า ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด โดยใช้วิธีถือโทรโข่ง แนะนำตัวและชูนโยบายพรรค สร้างความกินดี
อยู่ดี ทำเศรษฐกิจให้กลับมาเข้มแข็ง รวมทั้งนโยบายทางด้านลดความเหลื่อมล้ำ ของคนรวยและคนจน โดยทีมงานได้แจกแผ่นพับใบปลิว เนื้อหานโยบายของพรรค ให้แก่ประชาชนและบรรดาพ่อค้า-แม่ค้า ในตลาด ซึ่งมีประชาชนเข้ามาทักทาย และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นายสามารถ กล่าวว่า มีความมั่นใจในประชาชนที่พี่น้องตื่นตัวไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่เขต 1 ถึงกว่า 90.99 % ตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ ซึ่งเป็นเพราะว่า ประชาชนไม่ได้ใช้สิทธิ์กันมานานกว่า 5 ปี และเห็นพฤติกรรมการหาเสียงของพรรคการเมืองบางพรรค นักการเมืองบางคนที่ยัง
ใช้วิธีน้ำเน่า แบบเก่าเก่า มีการจดชื่อเพื่อเตรียมไปจ่ายสตางค์ฝากไปถึง กกต.ผู้ตรวจการ กกต.ว่าเป็นนักการเมือง พรรคการเมืองใด ที่มีพฤติกรรมแบบนี้บ้าง ในส่วนตัวทำตามครรลองประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ดูถูกประชาชนและเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ รู้ว่าบ้านเมืองเกิดอะไรขึ้นและแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าเพื่อชีวิตที่ดีกว่าเพื่ออนาคตของลูกหลาน และบ้านเมือง เชื่อว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ในการเลือกตั้งวันที่ 24 มิถุนายน นี้
ส่วนที่ตลาดสดบ้านน้ำลัด ตำบลริมกก ภายในเขตเทศบาลนครเชียงราย นางรัตนา จงสุทธาณามณี ผู้สมัคร สส.เชียงรายเขตที่ 1 พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 5 ได้ลงพื้นที่แนะนำตัว พร้อมทีมงานเดินแจกแผ่นพับใบปลิวนโยบายของพรรค โดยนางรัตนา ได้เดินทักทายบรรดาพ่อค้า-แม่ค้าในตลาดสด และ
ประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ โดยพูดอ้อนขอคะแนนเสียงให้สนับสนุนตน เช่นเดียวกัน โดยชูนโยบายมารดาประชารัฐ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้กับแม่ค้าในตลาด ซึ่งเป็นที่ชอบอกชอบใจ ของกลุ่มบรรดาแม่ค้า และได้เข้ามาจับมือถือแขนนางรัตนาด้วยความอบอุ่น
นางรัตนา กล่าวว่า ตามที่ได้ลงพื้นที่กอดได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี มีความมั่นใจในผลงานที่ผ่านมาในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งเคยได้ทำมาเป็นที่ประจักษ์ เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้สัมผัสมาแล้วทำให้ตนมีความมั่นใจ แต่ท้ายที่สุดอยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน อีกอย่างคือนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ประชาชนสามารถจับต้องได้และสัมผัสได้ เป็นการสานต่อนโยบายดีๆ ของรัฐบาล ตนขอโอกาสเข้ามาทำงานเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้อง
ประชาชน นำปัญหาไปเสนอต่อรัฐบาลเพื่อนำปัญหาไปปรับปรุงและพัฒนา ต่อไป ต่อข้อถามที่ว่ามีความหนักใจในพื้นที่นี้หรือไม่ นางรัตนากล่าวว่า เท่าที่สัมผัสกับพี่น้องประชาชนในการเดินหาเสียง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี พี่น้องประชาชนมีความยิ้มแย้มแจ่มใสทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ดีใจ ทำให้ตนมีกำลังใจ
ในการเดินลงพื้นที่ นอกจากนี้ตนเองยังได้เคยเดินลงพื้นที่อื่น เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงด้วย ก็พบว่านโยบายของพรรคตรงใจกับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรชาวไร่-ชาวนา มีความพอใจในนโยบายของพรรคมาก ส่วนความมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐ จะได้รับการเลือกตั้ง สส.จำนวนกี่เขต นางรัตนา ตอบเพียงมีความมั่นใจในกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนส่วนการหาเสียงของพรรคการเมือง อื่นๆ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ส่วนใหญ่จะเน้นการติดป้ายริมถนน ตามจุดต่างๆมากกว่า การเดินปราศรัยหาเสียง หรือตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ ดังเช่นพรรคเพื่อไทย กับพรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้มาเปิดเวทีปราศรัยที่จังหวัดเชียงรายถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้มีคะแนนความนิยมในกลุ่มเฟิร์สโหวต หรือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในครั้งแรกเป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าจับตาว่า พรรคนี้จะเข้าวินเป็นอันดับ 3 รองจากพรรคเพื่อไทย หรือพลังประชารัฐ ที่กำลังคะแนนคู่คี่ หายใจรดต้นคอกันอยู่เวลานี้ ความคืบหน้าของเขตเลือกตั้งอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป
