ตำรวจสุโขทัยเจ๋งสามารถรวบคนร้ายวิ่งราวทรัพย์สองสามีภรรยานักท่องเที่ยวชาวเยอรมันได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 นาทีหลังเกิดเหตุ ตำรวจท่องเที่ยวก็เตรียมมอบประกาศนียบัตรยกย่องพลเมืองดีผู้ประสบเหตุและแจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุมแจงเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคมโดยรวม
โดยโลกออนไลน์จากโซเชี่ยลมีเดียแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊กผู้ใช้นามบี คาราบาวได้มีการเผยแพร่วีดีโอภาพการจับกุมคนร้ายกระทำการวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันสองสามีภรรยา ขณะถีบรถจักรยานสองล้อท่องเที่ยวภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินไปหลายรายการคือ กระเป๋าคาดเอวสีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง บัตรเครดิต 3 ใบ และ เงินสด 300 บาท และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสุโขทัยได้เข้าทำการจับกุมคนร้ายผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 นาที จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากมายในโลกโซเชียลมีเดีย รวมทั้งการเข้าทำการจับกุมนั้นได้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำการอย่างนุ่มนวลพูดคุยกับคนร้ายด้วยคำพูดของลูกผู้ชายที่พูดคุยเปิดใจซึ่งกันและกัน จนคนร้ายสารภาพหมดเปลือกว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงและยินยอมให้ความร่วมมือไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเต็มใจ
จากเหตุดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามกับเจ้าของเพจเฟซบุ๊กนามบี คาราบาว พบว่าคือ ดาบตำรวจวันเฉลิม แก้วบุรี ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.สุโขทัย ซึ่งได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.35 น. วันที่ 23 มกราคม 2566 โดยศูนย์สื่อสาร สภ.เมืองเก่า แจ้งมีเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทราบชื่อภายหลังคือ นาย MEISER ULRICH และ นาง MEISER GEBKARWEGER สองสามีภรรยาชาวเยอรมัน โดยมีคนร้ายเป็นชายสวมใส่เสื้อสีขาวขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ขับขี่รถประกบผู้เสียหายและทำการกระชากกระเป๋าออกจากตะแกรงด้านหน้ารถจักรยานของนาง MEISER GEBKARWEGER พร้อมขับขี่รถจักรยายนต์หลบหนีไปตามถนนที่เกิดเหตุบริเวณหลังรีเจนด้ารีสอร์ท พื้นที่หมู่ 2 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ดต.วันเฉลิมพร้อมพวกจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุและประสานข้อมูลกับชุดสืบสวน สภ.เมืองเก่า โดยรับทราบว่า มีพลเมืองดีมาประสบเหตุดังกล่าวและประสานแจ้งเบาะแสที่พบเห็นเพราะได้มีการขับรถจักรยานยนต์มาพบเหตุพอดีและติดตามคนร้ายจนสามารถสังเกตุรูปพรรณสันฐานคนร้ายและทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุซึ่งคือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม 125 ซีซี สีดำ หมายเลขทะเบียน ขกร. 502 สุโขทัย ซึ่งพลเมืองดีนั้นทราบชื่อคือ พลทหารวินัย แก้วศรีอ่อน สังกัด ม.พัน 9 พล.ร.4 ค่ายเอกาทศรถ จ.พิษณุโลก เมื่อทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรับทราบจึงสามารถลงพื้นที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 30 นาที จากการตรวจสอบทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ยังบ้านเลขที่ 40/4 หมู่ 4 ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายกำแพงหรือเล็ก ยอดนวล โดยคนร้ายให้การยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริงพร้อมทั้งนำตัวส่งมอบร้อยเวรฯ สภ.เมืองเก่า นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังสถานที่เกิดเหตุโดยตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่น โดยใช้พาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหานำตัวดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ด.ต ธนานพ อินภู่ ผบ.หมู่ ส.ทท.1 กก.3 ทท.2 หน่วยบริการตำรวจท่องเที่ยว ต.เมืองเก่า ซึ่งได้ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบบอกเล่าว่า ตนเองพร้อม ด.ต ติณณภพ วุฒนะเดชกร กำลังออกตรวจพื้นที่อยู่พอดีได้รับแจ้งเหตุจากวิทยุสื่อสาร สภ.เมืองเก่า จึงรีบรุดตรวจสอบในพื้นที่แต่ไม่พบคนร้ายจึงได้วนรถกลับไปยังที่เกิดเหตุเพื่อพบสองสามีภรรยาชาวเบลเยี่ยมผู้เสียหาย ทำการพูดคุยประสานล่ามแปลให้การต่อร้อยเวรฯ และ สนับสนุนนำนักท่องเที่ยวเดินทางกลับที่พัก ซึ่งนักท่องเที่ยวสองสามีภรรยานั้นประทับใจการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจสุโขทัยที่ทำการจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งนำทรัพย์สินกลับคืนมาอย่างครบถ้วน โดยนักท่องเที่ยวบอกว่า ตำรวจทุกนายสุดยอดประทับใจมาก
ด.ต ธนานพ ยังบอกกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ทางตำรวจท่องเที่ยวโดย พ.ต.ท. กฤษฎา จันทร์อุทัย สว. ส.ทท.1 กก.3 บก.ทท.2 พิษณุโลก ได้เล็งเห็นการกระทำความดีของพลเมืองดีในเหตุการณ์นี้คือพลทหารวินัย แก้วศรีอ่อน สังกัด ม.พัน 9 พล.ร.4 ค่ายเอกาทศรถ จ.พิษณุโลก ที่แจ้งเบาะแสจนตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็วจึงเตรียมมอบประกาศนียบัตรพร้อมด้วยรางวัลตอบแทนความดีเพื่อยกย่องเชิดชูการกระทำเพื่อส่วนรวมต่อไปในเร็วๆ นี้
ด้านพลทหารวินัย แก้วศรีอ่อน เปิดใจว่า ตนเองนั้นขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนเพื่อกลับบ้านพักใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงตะโกนของชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์และเห็นพฤติกรรมคนร้ายกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็วตนเองจึงรีบขับขี่รถจักยานยนต์ติดตามซึ่งในตอนแรกคิดจะประกบและต่อสู้จับกุมคนร้าย แต่คิดมาได้ว่า ตนเองนั้นไม่มีอาวุธติดตัวและกลัวว่าคนร้ายจะใช้อาวุธตอบโต้ตนเองจึงได้ทำเพียงแค่สังเกตุลักษณะรูปพรรณสันฐานของคนร้ายการสวมใส่เสื้อผ้าและชนิดของรถจักรยานยนต์คนร้ายพร้อมทั้งจดจำหมายเลขทะเบียนรถคนร้ายกลับมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ณ ที่เกิดเหตุจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วตนเองก็ภูมิใจที่ทำหน้าที่พลเมืองดีตามที่ต้นสังกัดตนเองเคยอบรมบ่มเพาะมารู้สึกภูมิในในตัวเอง
ด้านนางฟองจันทร์ แก้วศรีอ่อน มารดาของพลทหารวินัยกล่าวความรู้สึกว่า ภูมใจในตัวลูกชายในการทำหน้าที่พลเมืองดีและนับแต่เล็กแต่น้อยบุตรชายเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่แล้วและทำอย่างสม่ำเสมอจวบจนทุกวันนี้ส่วนตัวภูมิใจมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: