ลูกทาสยาขอเงินแม่ 20 บาทไม่ได้ คลั่งทุบกระจกบ้านพัง ซ้ำขู่ฆ่าพี่ชายต่อหน้าชาวบ้าน โชว์กอดอกยืนกร่างหัวหมอต่อหน้าตำรวจ บอก “ทำให้ดีนะ กูแจ้ง พรบ.คอมพ์ ถ้าทำกูเสียหาย แค่ถีบกระจกบ้าน…”
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 ธ.ค. 2566 เกิดเหตุชายคลุ้มคลั่งบุกทำลายทรัพย์สินในบ้านหลังหนึ่งที่ ต.ไกรนอก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย หลังขอเงิน 20 บาทจากแม่ไม่ได้ เลยพาลโมโหทุบกระจกหน้าต่างบ้านของพี่ชาย ซึ่งแม่มาหลบอาศัยอยู่ด้วย แตกพังไป 3 บาน สร้างความหวาดผวา กลัวว่าจะมีอาวุธถือบุกเข้ามาทำร้ายเด็กๆและคนในบ้าน จึงรีบโทรแจ้งตำรวจให้มาช่วยระงับเหตุ
นางสมพิศ อายุ 63 ปี เล่าว่า คนก่อเหตุเป็นลูกชายคนเล็ก ชื่อนายโฮม อายุ 38 ปี เสพติดยาบ้ามานาน 10 ปีแล้ว เมื่อตอนหัวค่ำได้มายืนเรียกอยู่ข้างบ้านเพื่อขอเงิน 20 บาท แต่ตนบอกไม่มีให้ นายโฮมเลยบ่นด่าด้วยคำหยาบคาย พร้อมขู่จะทุบทำลายทรัพย์สินที่บ้านให้หมด สักพักไม่ถึง 10 นาที ก็เดินมาทุบกระจกหน้าต่างที่บ้านของลูกชายคนโต ซึ่งเป็นพี่ชายของนายโฮม
พร้อมพูดท้าทายพี่ชาย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องหรือทะเลาะอะไรด้วยเลย ว่าให้เอาเจ้าบ้านมาเอาเรื่องกับกูนี่ ผู้อาศัยไม่ต้องพูดถึง กูไม่กลัวอะไร โทษปรับเท่าไหร่ กูก็ติดคุกให้เท่านั้น และถ้ากูออกมามึงจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ กูติดคุกไม่กี่วัน แล้วกูเอามึงตายแน่
ในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยระงับเหตุ นายโฮมยังแสดงท่าทีกอดอกยืนกร่าง โชว์หัวหมอต่อหน้าตำรวจ โดยบอก “ทำให้ดีนะ กูแจ้ง พรบ.คอมพ์นะ ถ้าทำกูเสียหาย กูแค่ถีบกระจกบ้านพ่อ ไม่ต้องถึงตำรวจมาจับหรอก” ก่อนเดินปรี่เข้ามาจะทำร้ายร่างกายพี่ชายต่อหน้าตำรวจ อย่างไม่เกรงกลัว
นางสมพิศ เล่าด้วยความช้ำใจอีกว่า นายโฮมมีลูกสาว อายุ 13 ปี กับลูกชาย อายุ 11 ปี ซึ่งตนรับภาระเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดจนทุกวันนี้ แล้วยังต้องหาเลี้ยงนายโฮมอีก มือเท้าครบแต่ไม่ยอมทำงาน ขี้เกียจถึงขั้นต้องแกล้งทำเป็นบ้าเพื่อให้คนสงสาร แล้วทรัพย์สินในบ้านก็ลักเอาไป แลกยาบ้ามาเสพจนหมดเกลี้ยง ทั้งที่นอน ตู้เสื้อผ้า เครื่องซักผ้า พัดลม ถังแก๊ส จักรยานเด็ก เปลนอน รองเท้าแตะ แม้กระทั่งถุงยังชีพ กล้วย มะพร้าว ข้าวสาร ก็ยังเอาไปแลกยาบ้ามาเสพในบ้าน
ตนทนสภาพชีวิตไม่ไหว สงสารเด็กๆที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ จึงได้พากันย้ายหนีออกจากบ้านตัวเอง มาอาศัยอยู่ที่บ้านของลูกชายคนโตแทน แต่นายโฮมก็ยังคงตามมาข่มขู่เอาเงินเป็นประจำ พอไม่มีให้ก็จะทำลายข้าวของ เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ยกเก้าอี้หินปูน 4 ตัว ที่วางอยู่หน้าบ้านตน ทุ่มทิ้งพังกลางถนน ก่อนจะเหิมเกริมบุกมาทำลายทรัพย์สินที่บ้านของลูกชายคนโต อย่างไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น
“ทั้งตนและเด็ก ๆ สภาพจิตใจย่ำแย่มาตลอดหลายปี ทำงานเหน็ดเหนื่อย หาเงินซื้อข้าวให้กิน แต่มันก็ขว้างทิ้งต่อหน้า บอกจะเอาเงิน ไม่เอาข้าว พูดกับพ่อ-แม่-ลุง-ป้า มันก็ขึ้นกูขึ้นมึง ไม่สำนึกบุญคุณใคร ซ้ำขู่ทำร้ายทุกคน ทุกวันนี้อยู่อย่างทรมานใจ ไม่มีใครทำอะไรได้ คงต้องปล่อยตามเวรตามกรรม แล้วแต่จะเกิดอะไรขึ้น เพราะไม่รู้จะพึ่งพาใครได้อีกแล้ว” นางสมพิศ กล่าวอย่างสิ้นหวัง
