24 พ.ค. 67 จากกรณีโลกโซเชียลได้มีการเผยแพร่ภาพก้อนหินประหลาด ลักษณะคล้ายมีฟอสซิลเมล็ดข้าวสารจำนวนมากฝังตัวอยู่ในหิน แต่เมื่อนำมาผ่าเจียระไนเสร็จแล้ว ก็จะดูคล้ายเมล็ดข้าวสุกที่ฝังตัวอยู่ในหินสีดำ และสีน้ำตาล ผิวมันวาว ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์หายาก เกิดจากอำนาจวาจาสิทธิ์ของ “พระร่วง” แห่งกรุงสุโขทัย ทำเอาหลายคนทึ่งและรู้สึกแปลกใจ บอกยังไม่เคยเห็น ขณะที่บางคนบอกทนไม่ไหว ขอสาธุก่อนก็แล้วกัน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่ 2 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย พบกับลุงเหล็ง จันทร์ฉาย อายุ 78 ปี เจ้าของบ้านข้าวตอกพระร่วงชื่อดัง พร้อมเล่าให้ฟังว่า ก้อนหินที่ชาวโซเชียลฮือฮานั้นเป็นสิ่งมีค่าของที่นี่ เรียกว่า “ข้าวพระร่วง” หรือ “ข้าวก้นบาตรพระร่วง” มีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวสารจำนวนมาก ฝังตัวอยู่ในหินก้อนใหญ่ แต่เมื่อนำมาผ่าเจียระไนเสร็จแล้ว ก็จะดูคล้ายเมล็ดข้าวสุกที่ฝังตัวอยู่ในหินสีดำ และหินสีน้ำตาล นิยมทำเป็นเครื่องประดับของขลัง เช่น หัวแหวน จี้สร้อยคอ ลูกประคำข้อมือ ส่วนเศษผงจากการเจียระไนก็เอาไปบดละเอียดนำมากดเป็นพระพิมพ์ต่างๆ
โดยตำนานเล่าว่าเกิดจาก “พระร่วง” ผู้มีวาจาสิทธิ์ ครั้งออกผนวชที่วัดเขาพระบาทใหญ่ ในวันตักบาตรเทโวโรหณะ เมื่อได้ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว ข้าวที่เหลือก้นบาตรท่านได้โปรยลงที่ลานวัด และอธิษฐานว่าให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหินชนิดหนึ่ง มีอายุยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลาน เช่นเดียวกับหินข้าวตอกพระร่วง แต่ลักษณะหินข้าวตอกพระร่วงนั้น จะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋าโดยธรรมชาติ ฝังตัวอยู่ในหินก้อนใหญ่
หินทั้ง 2 ชนิดนี้พบมีจำนวนมากบนเขาพระบาทใหญ่ ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งเป็นสถานที่เกิดตำนาน ส่วนเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของ “ข้าวตอกพระร่วง” และ “ข้าวก้นบาตรพระร่วง” ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินมงคล ใครมีไว้บูชาจะเจริญ ค้าขายขึ้น รวมทั้งเกิดโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย และป้องกันคุณไสยมนต์ดำ
ลุงเหล็ง บอกว่า เคยมีคนมาขอซื้อก้อนหิน “ข้าวพระร่วง” หรือ “ข้าวก้นบาตรพระร่วง” ก้อนนี้ในราคาเกือบ 1 แสนบาท แต่ไม่ขายเพราะว่าเป็นของเก่าหายาก เก็บรักษามานานหลายสิบปีแล้ว จะเอาไว้ให้เด็กๆรุ่นหลังได้ศึกษา รวมทั้งเหล่าดาราที่แวะมาถ่ายทำรายการที่นี่ ก็มักจะขอดูและเอาหินแตะหน้าผากเพื่อขอพรกันตลอด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: