นายกวิศพงศ์ สิริธนนนท์สกุล ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยคณะกรรมการหอการค้า และตัวแทนจากองค์กรภาคเอกชนอื่นๆ ร่วมรับฟังข้อมูลและความคิดเห็นจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)
ผู้ดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา กับฝ่ายที่คัดค้านโครงการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ในประเด็นว่าทั้ง 2 ฝ่ายมองมุมต่างกันยังไงบ้าง มีประเด็นไหนบ้างที่น่ากังวล และจะเชิญนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) ซึ่งมีความรู้ มาร่วมประชุมกับหอการค้าถึงประเด็นต่างๆ ที่น่าสงสัย เช่น มลภาวะต่างๆ สารหนู และ สารปรอทที่กฝผ.บอกว่า เป็นไปตามมาตรฐาน แต่ฝ่ายที่ค้านโครงการ บอกว่า ต่ำกว่ามาตรฐานประเด็นที่สอง จำนวนน้ำที่ใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งต้องใช้มากกว่า 9,000,000ลูกบาศก์เมตร เป็นข้อกังวลว่า น้ำที่ใช้ดูดไปกับน้ำที่ปล่อยไป จะทำลายระบบนิเวศของพื้นที่หรือไม่
“หากโครงการก่อสร้างจริงนับเป็นอีกเมกกะโปรเจกต์ เป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้า ที่ประเทศต้องใช้ อาจไม่ได้สร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจกับคนท้องถิ่นโดยตรง เพราะเป็นไปไม่ได้ที่กฝผ.จะจ้างพนักงาน ซึ่งเป็นคนท้องถิ่น 100% เนื่องจากงานลักษณะนี้ต้องใช้เทคนิคเรื่องวิศวกรรม” นายกวิศพงษ์กล่าว และว่า
หอการค้าสงขลา พยายามทำหน้าที่เป็นองค์กรเอกชนที่เป็นกลางที่สุดเพื่อให้เกิดความสมดุล หาทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ โดยเวทีทางวิชาการ ซึ่งเราจะเชิญนักวิชาการที่มีความเป็นกลางโดยเราติดต่อประสานงานกับม.อ.ซึ่งน่าจะจัดเวทีช่วงปี 2561
