สงขลา – ทหารและหน่วยงานในพื้นที่ อ.สะเดา ร่วมแผนปฏิบัติการกวาดล้าง รวบ 26 แรงงานชาวเมียนมา ขณะซ่อนตัวริมชายแดนไทย -มาเลย์ฯ รอนายหน้ามารับข้ามประเทศ
4 มิถุนายน 2561 ที่ฐานร้อย ร. 5021 พันเอก วรเดช เดชรักษา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 แถลงข่าวการจับกุม แรงงานต่างด้าวชาวพม่าหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลาซึ่งหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ได้บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ดำเนินการกวาดล้างจับกุมการกระทำผิดกฎหมาย ตามแผนปฏิบัติการ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ 25 พ.ค . 61 ที่ผ่านมา ตามสั่งการของแม่ทัพภาคที่ 4
ในห้วงที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด และ พ.ร.บ.ศุลการกร จำนวนหลายรายการ และล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวันที่ 3 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา กองร้อยทหารราบที่ 5021 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 กองกำลังเทพสตรี สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวน 26 คน เป็นชาย 21 คน หญิง 5 คน ได้ที่บริเวณ หลักเขตแดนที่ 17 บ.ต้นพยอม ม.1 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการลาดตระเวนตามแผนปฏิบัตการฯ เมื่อมาถึงบริเวณหลักเขตแดนที่ 17 ซึ่งติดกับสวนยางพาราได้พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยนอนกระจัดกระจายอยู่ที่พื้น จึงเข้าดำเนินการตรวจสอบ พบว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ไม่มีเอกสารในการเดินทางเข้าในประเทศ จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ ร้อย ร. 5021
จากการสอบถามผ่านล่ามทราบว่าแรงงานทั้งหมด ได้เดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 วันโดยที่มาหลบซ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าวเพื่อรอให้นายหน้ามารับ เพื่อเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ซึ่งทุกคนจะต้องจ่ายเงินเป็นค่าเดินทางรวมถึงค่านายหน้า ประมาณคนละ 20,000 บาท
พันเอก วรเดช เดชรักษา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 บอกว่าสถานการณ์ การลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ของกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา พบว่าสถิติการจับกุมในแต่ละครั้ง มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อ 12 พฤษภาคม 2561 ก็สามารถจับกุมแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 42 คน เป็นชาย 39 คน และเป็นหญิง 3 คน
ซึ่งการลักลอบข้ามแดนของกลุ่มแรงงานดังกล่าว มีลักษณะการกระทำเป็นขบวนการ โดยมีกลุ่มนายทุนที่เป็นคนไทยทำหน้าที่ส่งผ่าน ไปยังกลุ่มนายหน้าผู้ใช้แรงงานในประเทศมาเลเซีย โดยรูปแบบในการลักลอบส่งแรงงานต่างด้าว จะใช้วิธีการทยอยเดินทางมากับรถโดยสาร หรือรถนำพาของขบวนการ และมาพักคอยอยู่ตามบ้านเช่าหรือแหล่งพักคอยในพื้นที่ เมื่อครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ก็จะแทรกซึมด้วยการเดินเท้า ในห้วงเวลากลางคืน เพื่อรอผู้นำพาเดินทางข้ามแดนผ่านตามช่องทางต่างๆไปยังประเทศมาเลเซียต่อไปซึ่งหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 จะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ตม. เพื่อนำตัวกลุ่มขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
