สงขลา – สะเดา ออกหมายจับแล้ว ชาวบ้านหวาดผวาหนักเหตุฆ่ากันตายที่ตำบลปริก อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากมีคนพบเห็นมือมีดยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ในพื้นที่ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา สนธิกำลัง ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา ตำรวจตระเวนชายแดน เร่งออกติดตามจับกุมตัวแต่ยังคว้าน้ำเหลว
13 ม.ค. 63 ความคืบหน้าเหตุนายโสภณ สุกใส หรือบังหลี อายุ 43 ปี ใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงและฟันไม่ยั้ง นายคณิต บิลเส็ม หรือบังโสด อายุ 47 ปี หนุ่มใหญ่อาชีพส่งน้ำแข็ง รวม 9 แผลจนเสียชีวิตคาสนามหญ้าในช่วงเช้าตรู่วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 18 ซอยมิตรสงคราม หมู่ที่ 3 บ้านทุ่งนา ตำบลปริก อ.สะเดา จ.สงขลา ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไป
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา ได้ออกติตตามจับกุมตัวโดยทันที เนื่องจากมีพยานผู้เห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนาทวีแล้ว ที่ จ. 24 / 2563 ลงวันที่ 11 ม.ค. 63 ในข้อหากระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้ชาวบ้านใกล้เคียงในตำบลปริก เริ่มหวาดผวามือมีดรายนี้ ส่วนใหญ่ไม่กล้าออกไปกรีดยางในเวลากลางคืน กลัวว่าจะโดนทำร้ายร่างกายได้ เนื่องจากมีชาวบ้านพบเห็นว่านายโสภณ สุกใส ยังคงหลบหนีโดยอาศัยอยู่ในป่าสวนยางพารา และขอวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เร่งติดตามจับกุมมือมีดรายนี้มาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อที่ชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตทำมาหากินตามปกติ
วันนี้เวลาประมาณ 13.30 น. พ.ต.ท.เทพพนม สุวรรณรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.สะเดา ได้สนธิกำลังร่วมกับชุดสืบสวน สภ.สะเดา ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 ฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และจิตอาสาในพื้นที่ รวมกว่า 50 คน ออกติดตามค้นหา และปิดล้อมแนวป่าบริเวณบ้านปริกตกหมู่ที่ 6 และบ้านทุ่งนา หมู่ 3 ต.ปริก หลังจากที่ชาวบ้านแจ้งว่าในช่วงเช้าวันนี้ มีผู้พบเห็นนายโสภณ สุกใส ป้วนเปี้ยนอยู่ในบริเวณดังกล่าว แต่ล่าสุดยังไม่พบตัวแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 3 ถนนสมานมิตร ต.ปริก ซึ่งเป็นบ้านของนายโสภณ สุกใส พบเพียงนางวิภา สุกใส อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นภรรยา บอกว่าตั้งแต่วันที่เกิดเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อจากสามีเลย ส่วนตัวไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน รู้สึกเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน 
โดยผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นที่บริเวณฝาผนังในบ้านซึ่งเป็นปูนซิเมนต์ มีข้อความเขียนด้วยสีแดงว่า “ ผมถูกกระทำ ผมถูกใส่ร้าย ผมอยู่ไม่ได้ พี่เมีย ” และ “ อันเลาะฮ์ อยู่ในใจ จะอยู่ไหน มีอันเลาะฮ์ อาหลี สุราษ์ฯ ” ทั้งนี้ได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.ไพโรจน์ วงษ์ถวิล พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ว่าจากการสอบปากคำนางวิภา ก็ไม่ทราบเหตุผลจูงใจที่สามีลงมือฆ่า ทั้งนี้คงต้องรอให้จับกุมนายโสภณฯได้ก่อนและทำการสอบสวน ถึงจะทราบว่าเหตุผลทั้งหมดคืออะไร
