สงขลา – สะเดา ปลูกผักยกแคร่ไว้กินในครัวเรือน ส่วนที่เหลือนำไปขายสร้างรายได้อย่างพอเพียง อาชีพเสริมของชาวบ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 8 ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ที่ง่ายต่อการดูแล ประหยัดต้นทุน ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนก็เก็บผลผลิตได้ ตลาดต้องการเพราะปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ( มีคลิป )
31 ม.ค. 63 นอกจากการกรีดยางพารา ซึ่งเป็นอาชีพหลักประจำแล้ว ชาวบ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 8 ตำบลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ยังรวมกลุ่มกันปลูกผักยกแคร่ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเป็นการหารายได้เพิ่มเติม ซึ่งผักที่ปลูกมีคุณภาพดี สามารถใช้ประกอบอาหารกินในชีวิตประจำวัน มีเหลือนำไปขายให้กับโรงเรียน และประชาชนทั่วไปที่สนใจนายยูนุส จิตตรง อายุ 34 ปี เกษตรกรที่เข้าร่วมกลุ่มปลูกผักยกแคร่บอกว่า ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอสะเดา ในการปลูกสร้างโรงเรือน และแนะนำความรู้ในการดูแลพืชผักที่ปลูก ซึ่งมีทั้งผักคะน้า ผักกาดขาว ผักชี ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง และอื่นๆ เริ่มตั้งแต่ยกแคร่ซึ่งเป็นโครงเหล็กขนาดกว้างประมาณ1.50 เมตร สูง 1.20 เมตร ความยาวแล้วแต่ขนาดพื้นที่ที่ต้องการ
เตรียมเศษฟางข้าว ใบไม้ใบหญ้า แกลบ หน้าดิน ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก คลุกเคล้ากันแล้วนำใส่กระบะซึ่งวางอยู่บนแคร่ ส่วนผักที่จะปลูกเช่นคะน้า หรือผักกาดต่างๆต้องเพาะต้นอ่อนก่อน ประมาณ 1 อาทิตย์จึงนำมาปลูก ดูแลรดน้ำประมาณ 1 เดือนก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้แล้วแต่ชนิดชของผักด้วย โดยแคร่ที่ปลูกจะมีหลังคาเป็นพลาสติกใสคลุมไว้ และด้านข้างกั้นมุ้งขาว ทั้งนี้เพื่อรักษาความชื้นและป้องกันแมลงศัตรูพืชต่างๆ
ข่าวน่าสนใจ:
ข้อดีของการปลูกผักยกแคร่คือประหยัดพื้นที่ ผักโตเร็ว ดูแลกำจัดวัชพืช และแมลงศัตรูพืชได้ง่าย เป็นการประหยัดเวลา ซึ่งกลุ่มปลูกผักยกแคร่มีทั้งหมด 10 คน ปลูกมาแล้วกว่า 1 ปี ได้ผลผลิตทั้งกินกันเองในครัวเรือน และพาไปจำหน่าย ที่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะมารับเองถึงแปลงผัก ราคาขายผักคะน้า ผักกาดขาว เฉลี่ยอยู่ที่ กิโลกรัมละ 40 บาท ส่วนผักชีจะมีราคาสูงกว่าผักอื่นๆ กิโลกรัมละ 50 กว่าบาท แต่โดยรวมก็ถูกกว่าในตลาดทั่วๆไป นับว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่น่าสนใจสามารถทำได้ตลอดทั้งปี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: