สงขลา – เลี้ยงนกเขาชวาเสียงวิถีชีวิต ที่มีมากกว่าการสร้างรายได้ เพิ่มสายสัมพันธ์เพิ่มความสามัคคีไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น ทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ โดยมีนกเป็นตัวเชื่อม ตะลึงนกบางตัวราคาสูงถึงหลักล้านบาท
การเลี้ยงนกเขาชวาเสียงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ที่ผ่านมาได้จัดให้มีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนไทยและต่างประเทศ ควบคู่กับเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมทั้งช่วยสร้างรายได้ในคราวเดียวกัน
นายนอระบิล บูนำ อายุ 64 ปี หรือ ( ฮะยีดิง ) ฉายาในหมู่เซียนนกเขาชวาเสียง เจ้าของฟาร์มนกเขาชวาเสียง 1 ใน 3 แห่งของ อ.สะเดา ซึ่งเป็นฟาร์มใหญ่สุดตั้งอยู่ที่ 160 / 1 ซ.บูนำ ม.7 บ้านไทย –จังโหลน ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา บอกว่าตนเองได้เลี้ยงนกเขาชวาเสียงมากว่า 15 ปี ซึ่งเริ่มจากความชอบเป็นการส่วนตัว และเลี้ยงแค่ไม่กี่ตัว จนกระทั่งพัฒนาเป็นการเพาะพันธุ์นกเขาชวาเสียงขาย โดยปัจจุบันมีนกเขาชวาเสียงที่เลี้ยง รวมๆแล้วกว่า 100 ตัว
ซึ่งการเพาะขยายพันธุ์ และเลี้ยงนกเขาชวาเสียงไม่ถึงกับยุ่งยาก แต่ที่สำคัญคือต้องมีเวลาดูแลเอาใจใส่ ให้น้ำให้อาหารและเอานกตากแดด เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในช่วงเช้าของทุกวัน สำหรับการคัดตัวพ่อพันธุ์แม่พันธ์จะคัดจากนกที่ประวัติดีในการแข่งขันหรือเคยแข่งได้อันดับชนะเลิศมา ซึ่งในฟาร์มของตนมีพ่อพันธุ์นกเขาชวาเสียงชื่อ “ หงส์ฟ้า ” ที่มีราคาค่าตัวสูงถึง 5.5 แสนบาท เคยแข่งขันกวาดรางวัลที่ 1 ระดับประเทศมาหลายงาน โดยมีการจองกันตั้งแต่เป็นไข่ เมื่อลูกนกอายุได้ประมาณ 1 เดือนจึงจะส่งให้ผู้ซื้อได้ ส่วนราคาตกคู่ละ 55,000 บาท ส่วนนกทั่วๆไปราคาตัวละประมาณ 10,000 บาท ซึ่งเป็นราคาปกติ ลูกค้ามีทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่มาหาซื้อ ส่วนนกที่มีการแข่งขันและได้รับรางวัลที่ 1 ปัจจุบันนี้มีราคาสูงถึง 2 – 3 ล้านบาทแต่ส่วนใหญ่เจ้าของมักจะไม่ขาย
นกเขาชวาเสียงที่ขึ้นชื่อส่วนมากมาจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ และที่ อ.จะนะ จ.สงขลา กลุ่มผู้เลี้ยงมีทั่วประเทศรวมถึงในต่างประเทศ สำหรับการเลี้ยงนกเขาชวาเสียงนอกจากจะสร้างความเพลิดเพลิน สร้างรายได้จากการซื้อขายนกแล้ว ยังมีส่วนเสริมสร้างความสัมพันธ์ความสามัคคีในกลุ่มผู้เลี้ยงโดยที่ไม่มีการแบ่งชนชั้น ศาสนา ทุกคนสามารถพบปะเป็นเพื่อนกันได้โดยมีนกเป็นตัวเชื่อม นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ในชุมชน เพราะมีการแข่งขันกันบ่อยๆทั้งในระดับเล็กๆจนถึงระดับประเทศ และระดับอาเซียน
ด้านนาย Neoh Kok Kiet หรือ บิลลี่ อายุ 64 ปี ชาวอลอสตาร์ ประเทศมาเลเซีย บอกว่าเลี้ยงนกเขาชวาเสียงมาเกือบ 10 ปี มีอยู่ 5 ตัว ราคาตัวละ 50,000 บาท ซึ่งชาวมาเลเซียโดยเฉพาะชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนมีความเชื่อกันว่าการเลี้ยงนกเขาชวาเสียง จะเป็นการเสริมสร้างมงคลให้กับชีวิตทั้งด้านครอบครัว และธุรกิจ จึงนิยมเลี้ยงกันมากทั้งที่บัตเตอร์เวอร์ธ ปีนัง อีโปร์ และโยโฮร์ ซึ่งในประเทศมาเลเซียก็มีการแข่งขันรายการใหญ่ๆที่มีนกจากต่างประเทศเข้าร่วมอย่างเช่นจากประเทศไทย สิงคโปร์ อินโดนีเชีย และบรูไน เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี มีเพื่อน มีความสุข สามารถพบปะพูดคุย จนนำไปสู่การพัฒนาในด้านอื่นๆร่วมกันได้ ทั้งระดับเล็กๆและระดับประเทศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: