สงขลา – จัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าและท่องเที่ยวชายแดนสะเดา ชมรมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก ร่วมหน่วยงานทั้งระดับอำเภอและจังหวัด จัดมหกรรมดนตรีสองแผ่นดินไทย –มาเลย์ 2018 และของดีเมืองสะเดา ชูขบวนแห่คาร์นิวัล แฟนซีรวมชาติพันธุ์เป็นที่แรกในจังหวัดสงขลา
งานมหกรรมดนตรีสองแผ่นดินไทย –มาเลย์ 2018 และของดีเมืองสะเดา หรืองาน Music Festival Thai – Malay 2018 จัดขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ หลังจากที่ตกอยู่ในสภาวะซบเซามานานหลายปี ซึ่งทางชมรมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอกที่รวมตัวกันทั้งเจ้าของธุรกิจต่างๆ และคนในพื้นที่ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆเช่น อำเภอสะเดา สำนักงานกีฬาและการท่องเที่ยว จังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเป็นต้น โดยมีนายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการเปิดงานเมื่อ 23 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งงานจัดขึ้นที่บริเวณถนนริมรั้วชายแดนไทย – มาเลเซียใกล้ด่านพรมแดนสะเดา
ซึ่งงานมีไฮไลท์เป็นขบวนแห่คาร์นิวัล แฟนซีหลากหลายวัฒนธรรมชาติพันธุ์ ทั้งไทย จีน อิสลามรวมถึงชนเผ่าในพื้นที่ และส่วนหนึ่งที่เดินทางมาร่วมขบวนจากประเทศมาเลเซีย รวมกว่า 2,000 คน แห่ไปตามถนนกาญจนวนิชกลางเมืองท่องเที่ยวด่านนอกไปถึงด่านพรมแดนสะเดา โดยมีดรัมเมเยอร์และวงโยธวาทิตดังระดับประเทศของโรงเรียนชะอวดวิทยาคารมาร่วมสร้างสีสัน ควบคู่กับวงดุริยางค์ของโรงเรียนศรีวิเทศสังฆาราม ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวมารอชมเป็นจำนวนมาก
ส่วนบริเวณงานมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอปของกิน ของใช้ การละเล่นต่างๆ และการจำหน่ายผลไม้เช่นเงาะ ทุเรียน ลองกอง มังคุด จากชาวสวนในพื้นที่ อ.สะเดาโดยตรง ซึ่งเน้นผลผลิตที่มีคุณภาพดี ไม่ใช้สารเคมี สำหรับในช่วงกลางคืนมีการแสดงดนตรีจากศิลปินไทย และศิลปินจากประเทศมาเลเซียทุกคืน โดยงานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 -31 สิงหาคม 2561 รวม 10 วัน
ด้านนางณัฐชา แซ่เตียว ประธานชมรมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก และนายพลวัฒน์ วิไลชื่นผล กำนันตำบลสำนักขามบอกว่าเศรษฐกิจในเมืองท่องเที่ยวด่านนอกซบเซาลง มาเป็นเวลากว่า 4 – 5 ปี ทั้งนี้เป็นผลมาจากประเทศมาเลเซียที่เศรษฐกิจบ้านเขาก็ไม่ดี ค่าเงินตกต่ำ ทำให้การเดินทางมาท่องเที่ยวและจับจ่ายในบ้านเราได้รับผลกระทบ และที่ผ่านมาเมืองไม่มีกิจกรรมอะไรในการส่งเสริมหรือกระตุ้นเศรษฐกิจ การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการปลุกให้มีการตื่นตัว ให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในบ้านเรา ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการต่างๆ พร้อมทั้งหน่วยงานของรัฐ อยากให้ทุกๆคนได้เข้ามาร่วมงาน โดยคาดหวังว่าในอนาคตเราจะร่วมมือกันจัดขึ้นอีกโดยเฉพาะการแห่หรือขบวนคาร์นิวัล ซึ่งของเราเป็นที่แรกที่เดียวในจังหวัดสงขลา และมีเพียงไม่กี่จังหวัดในภาคใต้
