สงขลา – พ่อใจสลาย ลูกสาวตัวเองจับน้องสาวแท้ๆอายุ 12 เด็กออทิสติกช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เข้าห้อง ให้สามีขี้ยาข่มขืนยับ อ้างแค่ยัดแตงกวาใส่ ผลชันสูตรแพทย์พบอวัยวะเพศและทวารหนักฉีกขาดรุนแรง ล่าสุดเกรงกลัวความผิดทุบตีย่ามัดเก้าอี้ ก่อนฉกแหวนทองคำพร้อมรถจักรยานยนต์หลบหนี
ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าจากนายสมบูรณ์ แซ่ลิ่ม อายุ 43 ปี อาชีพขายของเด็กเล่นตามตลาดนัด อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 ถนนกาญจนวนิช ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา ว่าเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมาลูกสาวของตน ชื่อ ด.ญ.หน่อย ( นามสมมุติ ) อายุ 12 ปีเป็นเด็กออทิสติก ได้ถูกนายสาธิต หรือหมอก โกใบ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นลูกเขยของตนเองข่มขืน โดยมีนางสาวศิริขวัญ แซ่ลิ่ม อายุ 15 ปี ที่เป็นพี่สาวแท้ๆให้ความร่วมมือ ซึ่งได้ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.สะเดา แต่ยังไม่ได้รับทราบความคืบหน้าในเรื่องของคดีแต่อย่างใด
นายสมบูรณ์ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติมว่า วันที่เกิดเหตุตนเองและนางสมนึก แท่นเกสร อายุ 73 ปีย่าของเด็กได้ออกไปขายของเด็กเล่นที่ตลาดทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ตามปกติ โดยทิ้ง ด.ญ.หน่อยไว้ที่บ้านให้ลูกเขยและลูกสาวดูแล พอเวลาประมาณ 15.00 น.นายสาธิตฯโทรไปบอกว่า ด.ญ.หน่อย มีเลือดออกจากอวัยวะเพศไม่ยอมหยุด ตนเองจึงรีบกลับมาที่บ้านและสอบถามสาเหตุ โดย น.ส.ศิริขวัญฯบอกว่าสามีของตน เอาแตงกวาใส่อวัยวะเพศน้องสาวจนทำให้มีเลือดใหล ตนเองจึงรีบนำด.ญ.หน่อย ส่งโรงพยาบาลสะเดา และทางโรงพยาบาลสะเดาได้ส่งตัวต่อ ไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่ในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากมีเลือดใหลออกมาก
ซึ่งผลการตรวจที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ แพทย์บอกว่ามีแผลฉีกขาดที่อวัยวะเพศทั้งด้านนอกและด้านใน รวมถึงที่ทวารหนักซี่งไม่ใช่เป็นแผลที่เกิดจากแตงกวาอย่างแน่นอน แต่เป็นร่องร่อยการถูกข่มขืนอย่างรุนแรง ตนเองเมื่อได้ยินถึงกับช็อค และได้โทรกลับมาหา น.ส.ศิริขวัญฯและผู้เป็นแม่แต่ไม่มีใครรับ จึงรีบกลับมาที่บ้าน ก็พบว่าประตูบ้านถูกล็อคกุญแจ เมื่อเปิดออกมาก็พบว่านางสมนึกฯถูกจับมัดด้วยเชือกไนล่อนที่เก้าอี้ไม้ภายในบ้าน
สอบถามนางสมนึกฯบอกว่าถูกหลานเขยและหลานสาวบังคับให้เอาเงินให้ซึ่งตนเองบอกว่าไม่มี เลยถูกทั้งสองคนทุบตีแล้วจับมัดกับเก้าอี้ ก่อนที่จะถอดเอาแหวนทองคำน้ำหนักหนึ่งสลึงครึ่ง พร้อมกับขับรถฮอนด้าคลิก 125 ของนายสมบูรณ์ฯหลบหนี ซึ่งต่อมานายสมบูรณ์ฯได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สะเดา ถึงวันนี้ไม่มั่นใจว่ามีความคืบหน้าอะไรแล้วหรือยัง ตนเองเสียใจมากไม่อยากเชื่อว่าลูกเขย และพี่สาวแท้ๆจะทำแบบนี้ได้อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีนี้เด็ดขาดและเร็วที่สุด
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.สะเดาเพื่อติดตามรายละเอียดเบื้องต้น และความคืบหน้ากับ พ.ต.ท.ประทีป อ่อนรอด พนักงานสอบสวนเวร สภ.สะเดาเจ้าของคดี ซึ่งเมื่อพบผู้สื่อข่าวได้บอกเพียงว่าค่อยทำเคทอื่นได้ไหม เมื่อถามว่าออกหมายจับแล้วหรือยัง ก็ได้คำตอบว่าขอไปแล้วแต่ไม่รู้ศาลจะอนุมัติหรือเปล่า ก่อนที่จะเดินหลบไป
สำหรับนายสาธิต หรือหมอก เป็นที่รู้จักกว้างขวางของกลุ่มวัยรุ่นใน อ.สะเดามีประวัติพัวพันกับยาเสพติด ทั้งขายทั้งเสพ เคยถูกนำตัวเข้าโครงการบำบัด และเมื่อมาอยู่กินกับ น.ส.ศิริรักษ์ฯซึ่งออกโรงเรียนกลางคันตั้งแต่ ม. 2 แบบผัวเมีย ก็ไม่ได้ทำอาชีพอะไร ทั้งสองคนยังคงไปวนเวียนอยู่กับพรรคพวกเหมือนเดิม ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้เข้าอยู่อาศัยที่บ้านหลังดังกล่าวได้เพียงประมาณ 3 เดือนเศษก่อนที่จะลงมือทำชั่ว ทั้งนี้คงรู้ตัวว่าทางแพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่สามารถรู้สาเหตุที่แท้จริงได้ จึงชิงหลบหนีไปเสียก่อน
