สงขลา- สะเดา เตรียมรับคนไทยกลับจากประเทศมาเลเซียในวันที่ 18 เมษายน 2563 นี้ และตรวจเข้มทุกมาตรการการคัดครองโควิด-19 ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยจัดสถานที่กักกันรวม 2 แห่งในพื้นที่ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแล และให้คำปรึกษา 24 ชั่วโมง ตลอดระยะเวลาการกักตัว
16 เมษายน 2563 จังหวัดสงขลาได้จัดเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับคนไทย ที่จะเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 18 เมษายน 2563 โดยจะมีการคัดกรองตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข หากพบมีอาการเป็นกลุ่มเสี่ยง COVID-19 จะนำตัวเข้าสู่กระบวนการรักษา ณ ห้องแยกเชื้อของโรงพยาบาลสะเดา และโรงพยาบาลปาดังเบซาร์
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีอาการดังกล่าวจะแยกไปกักกันตัวในพื้นที่ ณ โรงแรม M SOHO และโรงแรมสาธิตแกรนด์วิว ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา รวมถึงผู้เดินทางที่อาศัยอยู่ในจังหวัดอื่น ๆ ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดสตูล ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส จะส่งตัวกลับไปกักกันตัวยังภูมิลำเนาเดิมทันที โดยทางจังหวัดสงขลาจะจัดรถนำส่ง ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
สำหรับบรรยากาศที่โรงแรม M SOHO ซึ่งเป็น 1 ในสถานที่กักกัน ช่วงบ่ายวันนี้ ( 18 เมษายน ) เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ และโรงพยาบาลสะเดา รวมถึงเจ้าหน้าที่พนักงานของโรงแรมได้ซักซ้อมการรับผู้ที่จะเข้ามากักตัวซึ่งผ่านการคัดกรองจากโรงพยาบาลมาแล้ว โดยมีการกำหนดจุดต่างๆเช่นจุดยืนรอ จุดล้างมือ ก่อนเข้าห้องพัก รวมถึงขั้นตอนการทำความสะอาดภายในห้องพัก
โดยผู้ที่ถูกกักกันจะอยู่พักอยู่ห้องละ 1 คน มีความสะดวกสบาย อาหารกิน 3 มื้อ มีกาแฟ ไวไฟ แอร์ และของใช้ส่วนตัวให้ และหากผู้ที่ถูกกักกันต้องการอะไรเพิ่มเติมก็สามารถสแกนคิวอาร์โค๊ด แจ้งพนักงานได้ แต่จะไม่อนุญาตให้ออกจากโรงแรมตลอดระยะเวลาการกักตัว 14 วัน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คุมเข้มตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง และจะมีแพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ และโรงพยาบาลสะเดาหมุนเวียนกันมาตรวจสุขภาพทุกวัน
นพ.สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ อ.นาทวี จ.สงขลา และรักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา บอกว่ากลุ่มเสี่ยงที่ผ่านการตรวจ เพาะเชื้อ หรือเอ็กซเรย์แล้วพบว่าปกติผลเป็นลบ แต่ยังถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงแต่แทนที่จะให้นอนที่โรงพยาบาล เราก็ส่งมาที่โรงแรม ซึ่งโรงแรมก็จะเปรียบเสมือนตึกผู้ป่วยของโรงพยาบาล
มีหมอพยาบาลมาดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีอะไรที่เขาจะปรึกษาสามารถทำได้ทั้งด้านสุขภาพกายและใจ ซึ่งเรามีพยาบาล นักจิตวิทยาร่วมอยู่ในการดูแลด้วย โดยเราได้เตรียมความพร้อมในการทำความเข้าใจว่าเมื่อเข้ามาอยู่ที่นี่ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ซึ่งเรามีไลน์กลุ่มไว้ให้สำหรับปรึกษาหารือโดยมีอาจารย์หมอ พยาบาลพร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง และหากพบว่าบางคนมีความเสี่ยงหรืออยู่ในสภาวะเครียดเป็นอย่างมาก เราก็รับตัวกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง แต่ทุกๆวันก็อาจจะแนะนำให้หาวิธีการต่างๆเช่นออกกำลังกายด้วยตัวเอง เป็นเกมสร้างสรรค์ผ่านมือถือหรือระบบโซเชียล
ส่วนที่ด่านพรมแดนสะเดาพบว่ามีการเตรียมตั้งเต้นท์จุดพักคอย จุดคัดแยก คัดกรอง และสถานที่สำหรับจอดรถ ซึ่งในวันที่ 18 เมษายน 2563 มีตัวเลขของคนไทยที่จะเดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซียผ่านด่านพรมแดนสะเดา จำนวน 99 คน ด่านสุไหง-โกลก 55 คน ด่านเบตง 6 คน และด่านวังประจัน 7 คน โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีคนไทยที่ตกค้างอีกประมาณ 4 พันคนที่รอการเดินทางกลับเข้ามา
