สงขลา – สะเดา ตลาดโต้รุ่งปาดังเบซาร์ ในเขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ที่เคยคึกคัก ในช่วงถือศีลอด “เดือนรอมฎอน” ซบเซาค่อนข้างมาก หลังจากชาวมาเลเซียที่อยู่ใกล้ชายแดนไม่สามารถออกมาจับจ่ายได้ รวมถึงชาวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่พากันกลับภูมิลำเนา หลังไม่มีงานทำ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายปิดประเทศ เพื่อควบคุมและป้องกันภัยโรคไวรัสโควิด-19 ของประเทศมาเลเซีย ( มีคลิป )
27 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตลาดโต้รุ่งปาดังเบซาร์ ( เมื่อช่วงเย็น 26 เม.ย. ) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรกาฬ เขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มีร้านขายอาหารการกินหลากหลายเกือบ 300 เจ้า ทั้งที่เป็นรถเข็น และเพิงเล็กๆ หรือการวางโต๊ะขายชั่วคราว ซึ่งพ่อค้า – แม่ค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวมุสลิมในพื้นที่ และเป็นเจ้าประจำที่ขายมานานหลายปี
ระยะทางประมาณ 400 เมตรของถนน มีพ่อค้า – แม่ค้า วางของขายทั้งสองฟากถนนที่ส่วนใหญ่จะเป็นของกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือน”รอมฎอน”หรือถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม ซึ่งมีทั้งของยุคเก่าตั้งแต่โรตีอร่อยเจ้าดั้งเดิม ซัมบูซะ มะตะบะ ปลาย่าง ข้าวเหนียวไก่ทอด บาร์บีคิว ร้านขายแกง ร้านขนมหวานทั้งแบบใส่ถุงและตัดแบ่งเป็นชิ้นๆขาย น้ำ และผลไม้ต่างๆ มีให้เลือกมากมายที่ตลาดแห่งนี้
ข่าวน่าสนใจ:
ช่วงเดือน”รอมฎอน”หรือถือศีลอด พ่อค้า- แม่ค้าจะเริ่มจัดร้านกันตั้งแต่เวลาประมาณบ่าย 2โมง ซึ่งจะมีคนออกมาซื้อของมาเดินกันขวักไขว่ในช่วง 4 – 6 โมงเย็นทั้งนี้เพื่อนนำไปเป็นอาหารแก้บวช โดยในช่วงนี้ปีที่ผ่านๆมาตลาดโต้รุ่งปาดังเบซาร์จะเต็มไปด้วยผู้คนนับพันต่อวันทั้งไทยและเทศ จนถือได้ว่าเป็นตลาดโต้รุ่งที่ใหญ่ที่สุดใน อ.สะเดา จ.สงขลา
สำหรับในปีนี้หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด – 19 ทำให้ตลาดซบเซาไปอย่างเห็นได้ชัด พ่อค้า-แม่ค้าส่วนใหญ่บอกว่า รายได้ลดลงเกือบครึ่งหากเทียบกับปีก่อนๆ ทั้งนี้สาเหตุหลักมาจากคนไม่มีกำลังซื้อเพราะส่วนใหญ่ตกงานจากผลกระทบโรคร้าย ที่สำคัญกว่านั้นตลาดแห่งนี้จะเป็นที่เลือกซื้อและจับจ่ายของชาวมาเลเซียในรัฐเปอร์ลิสซึ่งอยู่ติดกัน
บังรอหีม ฤทธิ์โต อายุ 56 ปี มีอาชีพขายปลาย่างในตลาดแห่งนี้บอกว่า ช่วงเดือน”รอมฎอน”ในปีก่อนๆขายดีมาก ปลาซาบะนอร์เวย์ 1 ลัง 20 กิโลกรัม ขายวันเดียวหมด มาในปีนี้ 1 ลัง ขายสามวันกว่าจะหมด ทั้งนี้ได้รับผลกระทบจากการที่มาเลเซียปิดประเทศจากภัยโรคโควิด-19 ทำให้ลูกค้าชาวมาเลเซียไม่สามารถออกมาได้ รวมถึงลูกค้าอีกกลุ่มที่หายไป คือชาวไทยจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่มาอาศัยอยู่ในปาดังเบซาร์ และไปทำงานในมาเลเซียแบบเช้าไปเย็นกลับ พอมาเลเซียปิดประเทศคนกลุ่มนี้ก็ตกงานและพากันกลับบ้าน
ด้านก๊ะจูไร ชาวปาดังเบซาร์บอกว่ามีอาชีพขายไก่หมุนมานานกว่า 10 ปี สำหรับในปีนี้รายได้ตกไปมากเนื่องจากไม่ค่อยมีคนออกมาจับจ่าย ทั้งนี้คิดว่าเพราะมีโรคโควิด- 19 ระบาด จากที่ช่วงนี้ขายได้ 100 -130 ตัว เหลือแค่ 70 – 80 ตัว และต้องหาวิธีดึงดูดลูกค้าโดยลดราคาลงอย่างเช่นราคาตัวละ 200 บาทก็ลดเหลือ 170 – 180 บาท
สำหรับเดือน”รอมฎอน “หรือถือศีลอด มีระยะเวลา 1 เดือน สำหรับในปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดโต้รุ่งปาดังเบซาร์ แม้ว่าจะไม่คึกคักมากเหมือนกับปีก่อนๆ แต่ก็คงยังเป็นตลาดที่น่าเดินจับจ่ายซื้อของกิน ทั้งนี้ในช่วงโรคไวรัสโควิด – 19 ระบาด ทางเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ร่วมกับกลุ่มภาคประชาสังคมได้รณรงค์และประชาสัมพันธ์ ให้พ่อค้า – แม่ค้าทุกคน รวมถึงคนที่จะไปซื้อของสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคร้ายในขั้นต้น ซึ่งนั่นก็เป็นภาพหนึ่งที่แปลกตากว่าทุกๆปีที่ผ่านมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: