สงขลา – หนุ่มสู้ชีวิตพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ทำร้านคาราโอเกะ ร้านหมูกระทะ ร้านมินิมาร์ท เจอวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำการค้าชายแดนซบเซา นักท่องเที่ยวหดหายเจ๊งไม่เป็นท่า หันมาทำน้ำจิ้มสุกี้ตีตลาดสู้ยักษ์ใหญ่ ยอดขายฉลุย เตรียมขยายการตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
ชายหนุ่มที่สู้ชีวิต และพลิกวิกฤติเป็นโอกาสเบนเข็มทิศตัวเองจนประสบความสำเร็จในชั่วเวลาไม่กี่เดือน คือคุณไกรยุทธ หรือเดี่ยว คงชุม วัย 35 ปี และคุณวันทนีย์ เม้าราศรี วัย 32 ปี ภรรยา หลังทั้งคู่ที่มองเห็นว่าธุรกิจที่บ้านด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ชายแดนไทย – มาเลเซีย กำลังลงทรุดสู่จุดต่ำสุด ร้านมินิมาร์ทที่ทำอยู่ขายของไม่ได้เนื่องจากผู้คนกลับภูมิลำเนา ร้านค้าต่างๆ ร้านคาราโอเกะทยอยปิดตัวลง
คุณเดี่ยวจึงหันมาทำน้ำจิ้มสุกี้ โดยนำเอาประสบการณ์ในตอนที่เปิดร้านหมูกระทะ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่บอกว่าน้ำจิ้มของที่ร้านอร่อย โดยในตอนแรกที่ทำก็เอาไปแจกให้เพื่อนๆที่อยู่ใกล้เคียงชิม ซึ่งทุกคนต่างยกนิ้วให้ในความอร่อย จึงลงมือทำอย่างจริงจัง และเนื่องจากการทำน้ำจิ้มเป็นสูตรที่ได้มาจากคุณแม่ เลยตั้งชื่อน้ำจิ้มสุกี้ ตรา”แม่วรรณดี ” ตามชื่อของคุณแม่ โดยในระยะแรกที่เริ่มผลิต ขายเพียงวันละ 50 ขวด จนทุกวันผลิตได้วันละ 1,000 ขวด มีลูกจ้างรวม 6 คน
ในส่วนของการตลาดใช้เวลาเพียง 6 เดือน ถึงปัจจุบันมียอดขายต่อเดือน 25,000 – 30,000 ขวด ขายดีมากที่ ชลบุรี ระยอง ระนอง ทางอีสานเช่นที่ จ.บึงกาฬ จ. เลย ซึ่งจะขายดีเป็นพิเศษช่วงหน้าหนาวเนื่องจากส่วนใหญ่คนที่นั่นชอบกินอาหารแบบปิ้งย่าง และสุกี้เป็นการลดความหนาว ส่วนที่ จ.สงขลา มีวางตลาดทั่วทั้งจังหวัด และกำลังหาตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และเร็วๆนี้จะขยายการตลาดไปยังประเทศมาเลเซียเพราะน้ำจิ้มสุกี้ตรา “ แม่วรรณดี ” ผ่านการรองรับฮาลาล รวมถึงได้จดทะเบียนเป็นบริษัท เค วัน ฟู้ดอินดัสตรี ( ประเทศไทย ) เรียบร้อย
น้ำจิ้มสุกี้ตรา “ แม่วรรณดี ” เด่นด้วยรสชาติที่เข้มข้น การเลือกวัตถุดิบอย่างดีที่สดใหม่ ส่วนประกอบหลักๆอยู่ที่พริกสด กระเทียม น้ำส้มสายชู ซอสพริก น้ำมันงา งาขาว น้ำมันหอย และน้ำจิ้มไก่ ปรุงด้วยความร้อนที่ 100 องศาเซลเซียส ไม่มีสารกันบูด ก่อนน็อคด้วยความเย็นแล้วจึงบรรจุขวด ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นาน 7 เดือนถึง 1 ปี สำหรับอุณหภูมิปกติ และเก็บได้ถึง 18 เดือนในตู้เย็น ซึ่งราคาขายขวดขนาด 330 กรัมราคาหน้าร้าน 35 บาท หรือส่งเป็นโหลๆละ 310 บาท และกำลังบรรจุเป็นแกลลอนนาด 4 กิโลกรัม แกลลอนละ 350 บาท และแบบถุงๆละ 1 กิโลกรัม ราคา 90 บาท
นี่คืออีกก้าวแห่งความสำเร็จของคนรุ่นใหม่แม้จะล้มลุกคลุกคลานมา หากกล้าคิด กล้าทำ และไม่ท้อถอย ไม่กลัว แม้ว่าตลาดน้ำจิ้มสุกี้จะมียักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่แล้ว ถ้าหากมั่นใจว่าของเราเด็ดกว่า โอกาสที่จะเต็บโต และประสบความสำเร็จเป็นไปได้เสมอ คุณเดี่ยวบอก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: