สงขลา– ตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 5 จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง รวมกว่า 20 คน ขณะซุกตัวหลบเจ้าหน้าที่ บริเวณป่าแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อรอนายหน้าพาออกนอกประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 8 ตุลาคม 2561 ร.ต.ท.ประวิง มั่นคง หน.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4304 พร้อมกำตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 5 กองกำลังเทพสตรี เข้าตรวจสอบบริเวณแนวป่าเขตชายแดนไทย- มาเลเซีย ระหว่างหลักเขตแดนที่ 23 ในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา หลังจากที่สืบทราบว่ามีกลุ่มคนแอบมาซุกซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก
ระหว่างเข้าตรวจสอบ กลุ่มคนที่ซุกตัวตามพุ่มไม้ ต่างวิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ทั้งหมด 23 คน เป็นชาย 19 คน และผู้หญิง 4 คน ในจำนวนนี้ มีหญิง 2 คน ให้การปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับผู้ถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระติดตัวทราบว่า ทั้งหมดเป็นชาวเมียนม่า และไม่มีหนังสือเดินทาง จึงควบคุมตัวทั้งหมด ไปสอบสวนเพิ่มเติม ที่ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4304
เจ้าหน้าที่สอบสวนนางสาวสายมล อายุ 42 ปี ทราบว่า ทั้งหมดเป็นชาวเมียนม่า ต้องการที่จะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย โดยการติดต่อผ่านนายหน้าคนหนึ่ง นำพาลักลอบเข้าเขตประเทศไทยทางด้านจังหวัดระนองเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา จากนั้นมีคนนำรถกระบะพาไปซ่อนตัวในป่าแห่งหนึ่ง เขตพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในช่วงเวลากลางคืน และวันถัดมาจึงมีคนพาตัวมมาหลบซ่อนที่แนวป่าชายแดนด้านอำเภอสะเดา โดยทั้งหมดจะต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าคนละ 2 หมื่นบาท
เธอยังให้การอีกว่า ก่อนหน้านี้ เธอทำงานอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จากนั้นได้ไปทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหา ในกัวลาลัวเปอร์ ได้ค่าจ้างต่อเดือนประมาณ 15,000 บาท เมื่อหนังสือเดินทางหมดอายุ จึงกลับภูมิลำเนาที่ประเทศเมียนม่า ส่วนในครั้งนี้ เมื่อมีโอกาสและมีคนที่สามารถพาเดินทางไปกัวลาลัมเปอร์ ได้แม้จะไม่มีหนังสือเดินทางแต่มีค่าใช้จ่าย 2 หมื่นบาทต่อคน จึงตกลงจะเดินทางไปตามข้อตกลง เพราะต้องการไปทำงานเป็นลูกจ้างในร้านอาหารเหมือนเดิม สำหรับคนอื่นๆ ที่ถูกจับกุมด้วยในครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะไปทำงานก่อสร้าง ซึ่งมีญาติเดินทางไปก่อนหน้าแล้ว
ด้านพันเอกวรเดช เดชรักษา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 5 กองกำลังเทพสตรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบและสกัดกั้นการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย ทำให้การลักลอบขนแรงต่างด้าวไปยังประเทศที่ 3 เบาบางลง ขณะเดียวที่การสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ยังพบความเคลื่อนจากขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าว ไปประเทศที่ 3 อย่างต่อเนื่อง โดยมีประเทศไทยเป็นทางผ่าน และใช้จังหวัดที่ติดต่อกับแนวชายแดน เป็นจุดพักตัว ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลอีกส่วนหนึ่งที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ สังเกตุเห็นความผิดปกติของกลุ่มคนที่เข้ามาในพื้นที่ จนสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวได้ในวันนี้รวม 23 คน
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เปิดเผยข้อมูลพฤติกรรมของขบวนการลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมาย ว่าปัจจุบันขั้นตอนการลักลอบขนแรงงานผิดกฏหมาย จะทยอยนำแรงงานไปหลบซ่อนตัวตามเป้าหมายที่กำหนด หรือบ้านเช่า เมื่อครบตามจำนวนที่ต้องการก็รอเวลาให้ขบวนการนำพาออกไปยังประเทศที่ 3 โดยมีกลุ่มนายทุนใน อ.สะเดา และขบวนการในพื้นที่คอยให้ความสะดวก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง เพื่อติดตามว่ากลุ่มนายทุนเป็นใครซึ่งคาดว่าจะมีทั้งคนไทยและมาเลเซีย ก่อนที่จะนำแรงงานทั้งหมดส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ( สะเดา ) เพื่อดำเนินการผลักดันกลับประเทศต่อไป
