สงขลา – สะเดา แรงงานเถื่อนชาวเมียนมาและชาวโรฮีนจา รวม 25 คน มุดรั้วชายแดนไทย – มาเลเซีย หวังหนีกลับประเทศ หลังจากภัยโควิด – 19 นายทุนเลิกจ้างส่งผลไม่มีงานไม่มีที่อยู่ สารภาพซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานใกล้ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ อดอาหารรวม 3 วัน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่รวบตัว อึ้งแรงงานผู้หญิงตั้งท้องทุกคน
8 ส.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเดา ทหาร ฉก. ร.5 และ ตชด.ชุด ชฝต. 4304 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยควบคุมโรคระหว่างประเทศ ประจำด่านสะเดา ร่วมกันตรวจสอบแรงงานเถื่อน ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองชายหญิง รวม 25 คน ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจบ้านด่านนอก นำโดย ร.ต.อ.ใจ สิงห์ดำ, ร.ต.ต.ปฏิพัทธ์ หมื่นเพชร พร้อมกำลัง รวบตัวได้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา
พบเป็นแรงงานชาวเมียนมาเพศชาย 11 คน เพศหญิง 8 คน และแรงงานชาวโรฮีนจาเพศชาย 6 คน จากการคัดกรองหาเชื้อโควิด – 19 เบื้องต้นพบเพศหญิงมีอาการไอ และมีน้ำมูกรวม 2 คน เพศชาย 1 คน แต่ที่ทำเอาเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึงคือ แรงงานเพศหญิงซึ่งอายุระหว่าง 23 – 30 ปี ตั้งครรภ์ทุกคน ระหว่าง 3 – 8 เดือน โดยสามีอยู่ในกลุ่มที่ถูกจับมาพร้อมกัน
จากการสอบถามโดยผ่านล่าม ทราบว่าแรงงานทั้งหมดอาศัยอยู่ตามรัฐต่างๆ ในประเทศมาเลเซีย โดยลักลอบไปทำงานในโรงงานพลาสติก เป็นช่างก่อสร้าง และกรีดยางพารา หลังจากที่มีการระบาดของโรคโควิด – 19 โรงงานต่างๆ หยุด งานไม่มี นายจ้างเลยเลิกจ้างทำให้ไม่มีเงินไม่มีที่อยู่ ประกอบกับในระยะนี้ทางการมาเลเซียเข้มงวด ผลักดันจับกุมคนต่างด้าว และแรงงานเถื่อน
จึงหาทางกลับบ้านซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรัฐยะไข่ ประเทศพม่า ตอนออกมาจากประเทศมาเลเซียมีนายหน้าคนจีนขับรถมาส่ง และเดินเท้าถึงแนวริมรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ใกล้ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ก่อนมุดรั้วลวดหนามออกมา โดยต้องจ่ายค่าเดินทางให้นายหน้าเฉลี่ยคนละ 1,300 ริงกิต หรือประมาณ 1 หมื่นบาทเศษ หลังจากนั้น ก็หาที่ซ่อนตัวเพื่อรอนายหน้าในไทยมารับ แต่ติดต่อไม่ได้เลยต้องหลบซ่อนอยู่ใต้สะพาน อดอาหารรวม 3 วันแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำน้ำและขนมให้แรงงานทั้งหมดกิน เพื่อบรรเทาความหิว ก่อนทำการบันทึกจับกุม และส่งตัวไปทำการ เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ สารคัดหลั่ง และเพาะเชื้อเพื่อตรวจหาเชื้อไวไรัสโควิด – 19 ที่โรงพยาบาลนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา รวม 3 คน ส่วนที่เหลือควบคุมตัวส่ง สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
