สงขลา- สะเดา พระครูสุวัฒนาภรณ์ หรือ อาจารย์ภัตร อริโย เจ้าอาวาสวัดนาทวี แจงปมการก่อสร้างพุทธมณฑลสงขลาล่าช้า แต่ยังมีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันรกแต่ไม่ร้างแน่นอน
22 ส.ค.63 จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว “ การก่อสร้างพุทธมณฑลสงขลา ” ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่มีกำหนดการแล้วเสร็จในปี พ.ศ 2561 ทั้งนี้ความเป็นมาของพุทธมณฑลแห่งนี้มาจากรัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้จังหวัดที่มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนา ให้ดำเนินการจัดสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดขึ้น
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดำเนินกิจกรรมทางด้านพุทธศาสนา บนเนื้อที่ประมาณ 117 ไร่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งอนุมัติให้จังหวัดสงขลา เปลี่ยนสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณประโยชน์เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 ทั้งนี้จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัด ที่มีศักยภาพในด้านต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศมาเลเชีย ซึ่งมีพี่น้องชาวสยาม ประชาชนชาวมาเลเซีย และชาวสิงคโปร์ที่เลื่อมใสศรัทธา ในพระพุทธศาสนาอย่างเหนี่ยวแน่น
ในการจัดสร้างได้มีการวางแผนผังในแต่ละจุดอย่างชัดเจน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และเพื่อส่งเสริมเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม ใช้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาของการจัดกิจกรรม ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์
ต่อมาในราวกลางปี 2557 ได้เกิดปัญหาในการก่อสร้าง จนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อที่จะเข้าดูแลการก่อสร้างในครั้งนี้ จนมีข้อยุติที่ว่าต้องใช้เงินราวกว่า 230 ล้านบาท ส่วนในปี 2559 นั้น ได้ใช้งบไป 100 ล้านบาท จนทำให้สามารถเปิดใช้บางส่วนได้ ส่วนปี 2561 จะเร่งสร้างให้เสร็จ แต่แล้วการก่อสร้างก็ไม่เสร็จ ทำให้ล่าช้าและเงียบหายมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ( 21 ส.ค. 63 ) พระครูสุวัฒนาภรณ์ หรือ อาจารย์ภัตร อริโย เจ้าอาวาสวัดนาทวี พร้อมเจ้าคณะจังหวัด ได้ลงพื้นที่ยังพุทธมณฑล จ.สงขลา เพื่อชี้แจงถึงกรณีการหยุดก่อสร้างพุทธมณฑล โดยยืนยันว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีการปล่อยทิ้งร้าง ยังคงมีการก่อสร้างตลอดเวลา แต่ขณะนี้ทั่วทั้งบริเวณยังรกไปด้วยหญ้าเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงัก
อีกทั้งเรื่องของงบประมาณการก่อสร้าง มีการระดมทุนตลอดเวลาแต่งบก็ไม่มากพอ ทั้งนี้เจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่เพิ่งมาประจำการเพียง 2 ปี การขับเคลื่อนอย่างจริงจังจึงเพิ่งเกิดขึ้น ส่วนกำหนดการที่แล้วเสร็จในปี 2561 เป็นส่วนของการหล่อพระประธาน ซึ่งหากไม่ติดกับโควิด-19 ก็เสร็จไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีพระอาศัยอยู่ประจำ โดยในวันนี้ก็จะมีการพัฒนาอย่างจริงจังและเดินหน้าก่อสร้างจนเสร็จ “พุทธมณฑลสงขลา รกแต่ไม่ร้างแน่นอน” อาจารย์ภัตร ยืนยัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: