สงขลา –เจ้าหน้าที่ตม.กวาดเกลี้ยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวมาเลเซีย ตั้งฐานปฏิบัติการในเมืองท่องเที่ยวชายแดนสะเดา โทร.หลอกชาวมาเลเซียด้วยกัน อ้างเรื่องมีเคราะห์ พร้อมให้เลขเด็ด เหยื่อจำนวนมากหลงเชื่อ ทำมานาน 5 ปี มีรายได้สูง ถึงเดือนละ 40 ล้านบาท
1 พ.ย. 61 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม.เข้าทำการสอบสวน ผู้ต้องหาแก็งคอลเซ็นเตอร์ ชาวมาเลเซีย ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ของกองบังคับการตำรวจคนเข้าเมือง 6 และ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา เข้าทำการจับกุมแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ชาวมาเลเซีย ที่มาเช่าอพาร์ทเม้นท์หรู บริเวณบ้านด่านนอก ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา หลังสืบทราบว่าที่อพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว มีชาวมาเลเซียมาเช่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นเวลานาน โดยได้ทำการตรวจค้นพร้อมกัน 5 จุด 
สรุปรวมผู้ต้องหาและของกลางคนไทย (หญิง) 5 คน ชาวมาเลเซีย ชาย 10 คน โทรศัพท์มือถือ 51 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 7 เครื่อง บัญชีธนาคาร 8 เล่ม บัตร เอทีเอ็ม และบัตรเครดิตรวม 56 ใบ รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน เงินไทยและเงินริงกิต จำนวนหนึ่ง โดยได้ประสานตำรวจมาเลเซียมาร่วมตรวจสอบ และรับตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีต่อในประเทศมาเลเซีย
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ฯบอกว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้ ได้ร่วมกันหลอกลวงชาวมาเลเซียด้วยกันเองมานานประมาณ 5 ปี ซึ่งเราได้รับการประสานจากตำรวจมาเลเซีย ว่ามีแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาตั้งฐานปฏิบัติการในอำเภอสะเดา จึงได้ทำการสืบสวน จนทราบว่าหัวหน้าแก๊งฯเป็นชาวจีนมาเลเซีย ชื่อนายฮุย จึงได้วางกำลังรอจนนายฮุย เข้ามาเมืองไทย และทำการกวาดล้างจับกุมดังกล่าว โดยพฤติกรรมของแก๊งนี้ จะใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความไปยังเหยื่อชาวมาเลเซีย โดยวิธีการสุ่มเบอร์ แล้วจะบอกว่ากำลังมีเคราะห์ ดวงชะตาไม่ดี แล้วให้หมายเลขเพื่อติดต่อกลับ
เมื่อเหยื่อรายใดหลงเชื่อติดต่อกลับ ก็จะเชิญชวนให้ทำบุญเพื่อสะเดาะเคราะห์ โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 800-1,000 บาทในขั้นต้น และจะส่งเลขเด็ดหรือ หวย ไปให้เสี่ยงโชค ซึ่งแน่นอนว่าในจำนวนเหยื่อไม่น้อย ก็ต้องมีถูกบ้าง เมื่อเหยื่อถูกหวย (หวยมาเลย์) ก็จะมีข้อตกลงขอส่วนแบ่งอีกร้อยละ 30 สำหรับรายที่ถูกหวยก็จะมีความเชื่อชวนเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้อง มาเป็นเหยื่อของแก๊งนี้โดยไม่รู้ตัวอีก ส่วนรายที่ไม่ถูกก็จะบอกว่ายังไม่มีโชคให้ทำบุญหรือสะเดาะเคราะห์เพิ่ม ซึ่งในแต่ละเดือนมีมูลค่ารายได้ของแก๊งฯนี้ ประมาณ 40 ล้านบาท
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย ที่หลอกลวงประชาชนมานานกว่า 20 ปี ขณะนี้ถูกกวาดล้างไปหมดสิ้นแล้ว ซึ่งแก๊งที่หลอกลวงประชาชนจะต้องไม่มีที่ยืน ขณะนี้ตำรวจไทย และตำรวจมาเลเซียได้ทำงานร่วมกัน ไม่มีรอยต่อ พูดภาษาเดียวกัน ประสานการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ฯบอก
