สงขลา-สะเดา เฮลิคอปเตอร์ของทางการมาเลเซีย บินลาดตระเวนเข้ามาในเขตประเทศไทย พื้นที่แนวเขตชายแดน อำสะเดา จังหวัดสงขลา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานเน้นย้ำไม่ให้รุกล้ำเข้ามาอีก
วานนี้ ( 4 ธ.ค. ) พ.ต.ต.สุริวงค์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.437 ได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.ประวิง มั่นคง หน.ชฝต. 4304 ว่าพบเห็นเฮลิคอปเตอร์ของทางการมาเลเซีย บินลาดตระเวนรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย บริเวณพื้นที่แนวเขตชายแดนด่านนอก –ปาดังเบซาร์ หลักเขตแดนที่ 17 A บ.ทับโกบ อ.สะเดา จ.สงขลา จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่ง ศคปอ.สฎ.ได้รับการติดต่อจาก Maj.Zaimi ศคร.กวนตัน มาเลเซีย เฮลิคอปเตอร์ของตำรวจมาเลเซีย ทำการบินใกล้แนวชายแดน แบบ A109 นามเรียกขาน POLICE-4 บินขื้นจากฐานปฎิบัติการ แต่ไม่ได้แจ้งพิกัด โดยบินขึ้นเวลา 10.00 น.ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชม.เพื่อลาดตระเวนตามแนวชายแดน ป้องกันผู้กระทำผิดกฎหมายและได้สังเกตเห็นกำลังไม่ทราบฝ่าย (เข้าใจว่าเป็นกลุ่มผู้กระทำผิด) โดยบินล้ำมาในเขตประเทศไทย
ซึ่งทาง สน.ปทม.ฯ จะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาหารือนอกรอบ ในการประชุมร่วมกับทางประเทศมาเลเซียที่จะมีขึ้นในครั้งต่อไป ซึ่งทราบว่าเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจมาเลเซีย จะทำการบินตามแนวชายแดนทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. และเบื้องต้นได้แจ้งเน้นย้ำไม่ให้เกิดเหตุการณ์บินรุกล้ำมายังประเทศไทยอีก
มีรายงานว่าทางการมาเลเซียได้เพิ่มความเข้ม ในการลาดตระเวนบริเวณแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ( ด่านนอก –ปาดังเบซาร์ ) โดยมีทั้งการลาดตระเวนทางบกด้วยรถยนต์ และรถหุ้มเกราะ อีกทั้งใช้เฮลิคอปเตอร์ บินลาดตระเวนด้วย
ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าปฏิบัติการณ์นี้ เริ่มจากที่มีเหตุการณ์กองทัพมดลักลอบขนกระท่อมชาวไทย ปะทะกับตำรวจสนามของมาเลเซีย จนทำให้ตำรวจสนามเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดที่ใกล้ชายแดนบ้านตะโล๊ะ ม. 8 ต.ปาดังเบซาร์ เมื่อ 24 พ.ย. 63
ทางด้าน พ.ต.ต.สุริวงค์ สมทรง ผบ.ร้อย ตชด.437 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ ชฝต.4303 – 4307 เพิ่มความระมัดระวังในการออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนเพื่อการปราบปรามผู้ลักลอบกระทำความผิด ในพื้นที่รับผิดชอบ และเฝ้าสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ตามแนวชายแดน ด้วยความเข้มงวดเช่นกัน
