สงขลา – สะเดา ป้องกันเชิงรุกชายแดนไทย-มาเลเซียทั้งทางบกและทางน้ำ สกัดแรงงานต่างด้าว รวมถึงคนไทยที่อาจลักลอบเข้ามาจากประเทศมาเลเซียทางช่องทางธรรมชาติ และอาจเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสโควิด – 19 สายพันธ์ใหม่ที่พบในประเทศอินเดียซึ่งมีความรุนแรง และมาเลเซียตรวจพบผู้ติดเชื้อแล้ว
3 พ.ค.64 พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 (ฉก.ร.5) ลงพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ประชุมร่วมหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง อ.สะเดา ทหารร้อย ร.5021 ตชด.437 ( ชุดเฝ้าตรวจชายแดน ) ตร.สภ.ปาดังเบซาร์ ตร.สภ.สะเดา และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ณ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 เพื่อชี้แจงและมอบนโยบายเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด – 19
ทั้งนี้จากการที่ประเทศมาเลเซียได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด – 19 (สายพันธุ์ที่พบในประเทศอินเดีย) เมื่อวันที่ 28 เม.ย.64 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีอัตราการแพร่ระบาดที่รุนแรง และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมรวมถึงอาจทำให้วัคซีนที่มีใช้ในปัจจุบันอาจไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.)ได้สั่งการ กองกำลังเทพสตรี(กกล.เทพสตรี) ให้เพิ่มมาตราการ ในการระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมืองของประชาชน และแรงงานผิดกฎหมายจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งอาจนำพาไวรัสโคโรนา (สายพันธุ์จากอินเดีย)เข้ามาสู่ประเทศไทย โดยด่วนที่สุด
พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 (ฉก.ร.5) บอกว่าจะเพิ่มการตรวจอย่างเข้มงวดและเพิ่มชุดลาดตระเวนตามแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงการจัดกำลังเพื่อรองรับการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในช่วงเทศกาล ฮารีรายอ เนื่องจากพี่น้องประชาชนที่ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียต้องการกลับมา เฉลิมฉลองในห้วงเทศกาลฯ จึงหลีกเลี่ยงการเข้ามาตามช่องทางที่ถูกต้อง เพราะต้องถูก กักตัว หน่วยจึงเปิดแผน “ สกัดกั้นตามแนวชายแดน ” ในห้วง 7 – 17 พ.ค.64 ทั้งทางบกและทางน้ำจาก จ.สตูล ถึง จ.นราธิวาส
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา อำเภอสะเดาอ่วม น้ำป่าทะลักท่วมบ้านเรือนช่วงใกล้รุ่ง นอภ.พร้อมหน่วยงานฯเร่งช่วย
- Chef’s Tableรุ่นใหม่คัดวัตถุดิบท้องถิ่นปักษ์ใต้ชั้นเลิศสู่โต๊ะอาหาร เสิร์ฟเมนูหรูไฟน์ไดนิ่ง
- “ภารกิจรับมือน้ำท่วม นายกอบจ.สงขลาระดมสรรพกำลังพร้อมเตรียมเปิดศูนย์ช่วยเหลือ”
- นายกอบจ.สงขลาลงลุยรับเรื่องร้องทุกข์ช่วงฝนตกหนักในพื้นที่
ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนประเทศไทยมาเลเซียช่วยเป็นหู เป็นตา ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ ในการเฝ้าระวังบุคคลที่จะลักลอบข้ามแดนโดย ผิดกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงการกักตัวตามมาตรการสาธารณะสุข เพื่อกลับมาฉลองในห้วงเทศกาลดังกล่าวซึ่งสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 ในประเทศมาเลยเซีย มีแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้นประกอบกับมีสายพันธุ์อินเดียและอัฟกานิสถานระบาดอยู่
อาจเป็นเหตุให้เกิดการระบาดรุนแรงขึ้นในประเทศไทยถ้าหากมีการหลุดรอดของเชื้อไวรัสของสายพันธุ์ที่รุนแรงมากขึ้น จึงขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนประชาสัมพันธ์ให้ญาติที่จะกลับร่วมฉลองเทศกาลอารีรายา ยื่นความประสงค์กับทางการกงสุลประเทศไทยในมาเลเซีย เพื่อขอกลับตามช่องทางที่ถูกต้องและผ่านกระบวนการ การกักตัวของ สธ. และหากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนให้แจ้งกับหน่วยทหารที่อยู่ใกล้ที่สุดซึ่งจะเปิดแผนในการเฝ้าตรวจชายแดนตลอด 24 ชม.และขอขอบคุณความร่วมมือจากประชาชนทุกคน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: