สงขลา-สะเดา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ตะลึงสภาพเมืองหน้าด่านสะเดา เหมือนกับเมืองร้างพร้อมรับปากแก้ไขปัญหาย่านร้านค้าเก่าแก่เกือบ 40 ปีในซอยไทย-จังโหลน 2 ที่เกือบปิดตายจากพิษเศรษฐกิจ และภัยโควิด -19 คาดรื้อร้านค้ากีดขวางทางเดิน ปรับภูมิทัศน์ใหม่ สร้างเป็นแลนด์มาร์ค ให้ทันสมัย รองรับนักท่องเที่ยวเมื่อเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
8 พ.ค. 64 เวลาประมาณ 15.30 น. นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา พร้อมด้วยนายพิทักษ์ พกฤษานุศักดิ์ สจ.อ.สะเดา นายเกชา เบญจคาร นายก ทต.สำนักขาม และนายพลวัฒน์ วิไลชื่นผล กำนัน ต.สำนัก เดินทางมาที่ซอยไทย – จังโหลน 2 หน้าด่านสะเดา เขต ทต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อมาตรวจสภาพร้านค้าในซอยดังกล่าว โดยมีเจ้าของร้านและนักธุรกิจในพื้นที่ให้การต้อนรับกว่า 30 คน
สำหรับพื้นที่ทั้งหมดมีร้านค้ารวมประมาณ 200 ร้านค้าตั้งอยู่บนที่ดินของกรมป่าไม้ที่ทาง อบจ.ได้ทำการเช่าเพื่อสร้างเป็นย่านการค้าให้กับชุมชน แต่ภายหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจค่าเงินริงกิตตกต่ำ และการเข้าออกด่านสะเดาต้องใช้หนังสือเดินทางทุกครั้ง ทำให้ตลาดไม่เป็นที่นิยมของชาวมาเลเซียที่ถือว่าเป็นลูกค้าหลัก จนเป็นเหตุให้การค้าซบเซาลงตามลำดับ ประกอบกับการปิดประเทศจากภัยโควิด – 19 ส่งผลให้ตลาดที่เปิดมายาวนานประมาณ 40 ปี แทบร้างในที่สุด มีเจ้าของธุรกิจเพียง 3-4 รายที่ยังเปิดขายสินค้าจำพวกรองเท้า เสื้อผ้า และเครื่องนอนอยู่
นายเกชา เบญจคาร นายก ทต.สำนักขาม พร้อมด้วยเจ้าของร้านค้าจึงเสนอแนวคิดให้รื้อแผงขายสินค้าที่อยู่บริเวณกลางถนนออก ให้เหลือไว้เฉพาะร้านค้าที่อยู่สองฝั่งซอยหรือถนน ทั้งนี้เพื่อความสวยงาม และสามารถให้รถนักท่องเที่ยวมาจอดซื้อของได้ ซึ่งเจ้าของร้านส่วนใหญ่ทุกคนเห็นด้วย และสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามจะมีการเรียกเจ้าของแผงทั้งหมดมาแสดงความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายก อบจ.สงขลา บอกว่ารู้สึกตกใจ ที่เมืองหน้าด่านเงียบเหงาราวกับเป็นเมืองร้าง ยินดีที่จะมาพัฒนาซอยไทย-จังโหลน 2 ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสวยงามและเป็นที่ดึงดูดให้คนต่างพื้นที่มาเที่ยวมาซื้อของกินของใช้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากต่างประเทศมาขายที่นี่และจะพัฒนาให้เกิดความสวยงามมีซุ้มประตู เป็นแลนด์มาร์คสวยงามโดยการออกแบบของ อบจ. และทำจุดเช็คอินให้คนไทยและนักท่องเที่ยวได้มาเซลฟี่ถ่ายรูปได้ รวมทั้งการพัฒนาร้านค้าทั้ง 2 ฝั่ง ให้สวยงามอีกด้วย
