สงขลา – สะเดา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่พรมแดนอำเภอสะเดา ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมกำชับมาตรการคุมเข้มในการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน และช่องทางธรรมชาติโดยผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เข้ามาระบาดในพื้นที่
วันนี้ ( 29 พ.ค. 64 ) นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวรณัฏฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางลงพื้นที่จุดตรวจหลักเขตแดนที่ 23 / 37 บ้านกงสีขาว หมู่ที่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมด้วยนายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา นายพลวัฒน์ วิไลชื่นผล กำนัน ต.สำนักขาม เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร. 5021 ตม.จว.สงขลา (สะเดา ) ตชด.ชฝต.4304 จนท.ศุลกากรและ ตร.สภ.สะเดา
สำหรับบริเวณดังกล่าว ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรระหว่างด่านศุลกากรปัจจุบัน และด่านศุลกากรแห่งใหม่ ที่เคยมีปัญหาใช้เป็นช่องทางการลักลอบเข้า – ออกข้ามแดนของคนไทยรวมถึงแรงงานต่างด้าว เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นเนินเขา มีต้นยางพาราเก่าและต้นไม้ธรรมชาติขึ้นปกคลุม และห่างจากเส้นทางหลักประมาณ 250 เมตร สามารถเดินเท้าข้ามแดนได้ง่าย และห่างไกลจากผู้คน ซึ่งจะมีรั้วเหล็กกั้นเขตแดนแต่พบว่าบางส่วนถูกตัดทำลายเป็นช่องสำหรับลอดตัวข้ามไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.5021 และ ตชด.4304 ได้ทำการซ่อมแซมตลอด
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา บอกว่าในพื้นที่มีการลักลอบข้ามแดนของแรงงานต่างด้าวเข้ามาบ่อยมาก เราสามารถเห็นร่องรอยการทำลายรั้วเขตแดน ตลอดความยาวประมาณ 85 กิโลเมตร โดยใช้บันไดปีนหรือใช้ไม้พาดข้ามรั้วมา และบางส่วนก็มีการทำลายรั้วลวดหนาม แล้วแต่บางช่วงจะใช้วิธีไหน
ข่าวน่าสนใจ:
- ธุรกิจโก-ลกเริ่มหวั่น! นทท.ลดฮวบ-หลังมาเลย์ดีเดย์ 1 ธค.เข้า-ออกผิดกฎหมาย - จับทันที
- เตือนชาวบ้านอย่าตกเป็นเครื่องมือคนร้ายที่พยายามสร้างความขัดแย้งในพื้นที่
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- “ไพเจน” ส่งจดหมายเปิดผนึกยุติลงชิงนายก อบจ.สงขลา
โดยทางผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่รับผิดชอบเรื่องชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย สั่งการมายังจังหวัดสงขลา ให้ปฏิบัติในการตรวจแนวชายแดนอย่างเข้มงวด ให้มีการแบ่งภารกิจในแต่ละพื้นที่ ให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้นตรงไหนหละหลวมก็ให้ดำเนินการลงโทษในแต่ละจุดที่ได้รับมอบหมาย พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ของรัฐ ห้ามเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนำพาต่างด้าวผิดกฎหมาย หรือการลักลอบเข้าเมืองอย่างเด็ดขาด
ส่วนกรณีที่ ต.ปาดังเบซาร์มีการติดโควิด – 19 จำนวนหลายรายซึ่งปรากฏว่าไทม์ไลน์ไม่ชัดเจน เรื่องนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาให้ความเห็นว่า เคทที่ปาดังเบซาร์มีการให้ข้อมูลที่คาดเคลื่อนว่าไปหาของป่าไปสัมผัสเชื้อที่ชายแดน ซึ่งจริงๆมาจากการแอบเล่นการพนันในบ่อน มีทั้งบ่อนลอย บ่อนวิ่ง เป็นเคทเดียวกับที่ อ.บางกล่ำ คลองหอยโข่ง โคกเมา ที่ติดไวรัสโควิดกันมาก
นอกจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมคณะยังได้เดินทางบริเวณหลักเขตแดนที่ 25-26 และหลักที่ 28 ม. 6 ต.สำนักแต้ว รวมถึงหลักเขตแดนที่ 9 บ้านตะโล๊ะ ม. 8 ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่พบการลักลอบข้ามแดน รวมถึงเป็นเส้นทางลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะใบกระท่อมจากประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะหน่วยชุดปฏิบัติการชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4304 เพิ่มความถี่ในการออกลาดตระเวน เฝ้าตรวจทั้งกลางวัน และกลางคืน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าพื้นที่โดยผิดกฎหมาย และป้องกันไม่ให้นำเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดีย และ สายพันธุ์แอฟริกาใต้เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: