สงขลา – สะเดา ผู้เสียหายเจ้าของรถกระบะและรถเก๋ง ถูกรถบรรทุกสินค้ามาเลเซียไหลถอยหลังมาชนพังยับ ถึงขั้นขายซาก เหตุเกิดใกล้ด่านศุลกากรสะเดา ร้องสื่อผ่านมาหลายเดือน ไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากคู่กรณีแม้แต่บาทเดียว เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างเป็นคดีแ่พ่ง ทำได้แค่ปรับคนขับชาวมาเลเซีย เพียง 400 บาท ( มีคลิป )
23 พ.ย. 64 ผู้เสียหายจากเหตุการณ์รถบรรทุกสินค้าสัญชาติมาเลเซีย ไหลถอยหลังมาชนรถยนต์กระบะ รถยนต์เก๋ง และรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหาย ประกอบด้วยนางสาวเพ็ญทิวา ก้อนดง ( เจ้าของรถยนต์กระบะ ) นางสาวนพรดา บัวแก้ว ( เจ้าของรถเก๋ง ) และนายมะอีซอ ปาแล ( เจ้าของรถจักรยานยนต์ ) เข้าพบกับผู้สื่อข่าวเพื่อให้ช่วยเหลือเป็นสื่อกลาง หลังจากที่เหตุการณ์ผ่านมาหลายเดือน แต่ผู้ประสบเหตุทั้งหมดยังไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด
นางสาวเพ็ญทิวา ก้อนดง ( เจ้าของรถยนต์กระบะ ) บอกว่าตนเองมีอาชีพค้าขายผลไม้ในพื้นที่บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา วันที่เกิดเหตุ ( 27 ก.ค. 64 ) เวลาประมาณ 20.00 น.ได้ขับรถไปจอดจ่ายค่าผลไม้ที่ตู้เอทีเอ็ม ติดกับโรงแรมออสก้า พาเลส ซึ่งตั้งอยู่ติดกับถนนกาญจนวนิช ใกล้ด่านศุลกากรสะเดา ขณะที่กำลังกลับขึ้นรถและก้มคาดเข็มขัดนิรภัย รู้สึกมีเงาดำมาพร้อมกับแรงกระแทกจนรถเสียหาย ส่วนตัวเองติดอยู่ในรถ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ทต.สำนักขาม ใช้เครื่องมือตัดถ่างช่วยเหลือออกมาได้ และถูกนำส่ง รพ.สะเดา
โดยตัวเองได้รับบาดเจ็บแพทย์มีความเห็นว่ากล้ามเนื้ออักเสบ ไม่สามารถยกของหนักได้ ( ทุกๆวันต้องยกลังผลไม้ ) เป็นเวลา 14 วัน ส่วนรถยนต์กระบะได้รับความเสียหายพังยับทั้งคันถึงขั้นขายซาก หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว Mr.JAMALUDID BIN MOHD YAZI อายุ 47 ปี ไว้ได้ เบื้องต้นพบว่าถูกปรับในข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาท เป็นจำนวนเงิน 400 บาท ก่อนถูกปล่อยตัวไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเป็นคดีแพ่ง ไม่สามารถกักตัวหรือคุมตัวไว้ได้
“อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ของเราช่วยเหลือดันเคทของเรา ให้เป็นตัวอย่างบ้างจากผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นผู้เสียหานโดยตรง ถึงตอนนี้รถใช้ไม่ได้คืนซากไปแล้ว แต่ต้องยังจ่ายธนาคารทุกเดือน บ้านก็ต้องเช่า ค้าขายไม่ได้เป็นศูนย์ ”
ด้านนางสาวนพรดา บัวแก้ว ( เจ้าของรถเก๋ง ) บอกว่าวันที่เกิดเหตุตนเองจอดรถต่อด้านหลังรถยนต์กระบะ ก่อนเดินไปที่ตู้เอทีเอ็ม ก่อนได้ยินเสียงคนร้องโวยวายและเห็นรถบรรทุกสินค้าไหลมาชนกันกับรถยนต์กระบะและกระแทกกับรถของตนเองจนรถกระเด็นไปอีกฝั่งถนน ได้รับความเสียหายด้านหน้ารถพังยับค่าเสียหายกว่า 1 แสนบาท แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับการชดใช้จากเจ้าของรถบรรทุกเลย
ผู้เสียหายทั้งคู่ยังเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมอีกว่า ได้มีการนัดเจราจากับคนขับรถบรรทุกสินค้าเพื่อจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่ สภ.สะเดา เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 64 โดนเหตุการณ์นี้มีผู้เสียหายรวม 6 ราย เรียกร้องค่าเสียหายรวมทั้งสิ้น 770,000 บาท โดยกำหนดชำระครั้งที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 154,000 บาท ในวันที่ 3 ส.ค. 64 และชำระครั้งที่ 2 จำนวนเงิน 616,000 บาท ภายในวันที่ 20 ส.ค. 64 แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีใครได้รับเลยสักบาทเดียว
ทั้งนี้ผู้เสียหายได้รวมกันยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.สะเดา จ.สงขลา ( ถึงนายอำเภอสะเดา )เมื่อวันที่ 23 ส.ค.64 เพื่อให้ประสานไปยัง สภ.สะเดา ถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลว่าเจ้าหน้าที่เจ้าของคดียังสามารถติดต่อคนขับรถบรรทุกได้ เนื่องจากทราบว่ามีการติดต่อขอรถของกลางที่ตำรวจยึดไว้คืน แต่ทำไมไม่ติดต่อหรือประสานให้ช่วยเหลือเยียวยาพวกตนที่เดือดร้อนอยู่ ทั้งนี้จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมแจ้งว่า ได้ทำหนังสือถึง สภ.สะเดา 2 ครั้งแล้ว แต่ไม่มีการชี้แจงกลับมาแต่อย่างใด
ทางด้าน พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.สะเดา บอกว่าสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทางเจ้าของคดีได้ทำการเปรียบเทียบปรับตาม พรบ.จราจรไปแล้ว เหลือเพียงการชดใช้ค่าเสียหายซึ่งเป็นคดีแพ่ง แต่จากสาเหตุที่ด่านพรมแดนยังไม่เปิด ทำให้ทางเจ้าของรถไม่สามารถเดินทางเข้ามาเจรจาได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ต้องรอให้มีการเปิดด่าน จึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งได้มีการชี้แจงไปทางศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ในส่วนที่ผู้เสียหายมองว่าชักช้านั้น ได้อธิบายไปแล้วเช่นกัน ผกก.สภ.สะเดาบอก
