สงขลา- สะเดา ส้มโชกุน ในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา รสชาติอร่อย หวานอมเปรี้ยว ไม่แพ้ถิ่นกำเนิด ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ปลูกในเนื้อที่ 7 ไร่กว่า สามารถทำเงินหลักแสนบาท ต่อปี อนาคตเล็งเปิดสวนจัดบุฟเฟ่ต์ ( มีคลิป )
ก่อนหน้าโน้น หากนึกถึงส้มโชกุน ผลไม้รสชาติหวาน อมเปรี้ยว เนื้อนุ่มไม่มีกาก ผลใหญ่มีกลิ่นหอม แม้เปลือก จะไม่ค่อยสวยงามก็ตาม เชื่อว่าทุกๆคน ต้องนึกถึงอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งขึ้นชื่อมานานว่าเป็นแหล่งปลูก และผลิตส้มโชกุน คุณภาพดี ออกสู่ท้องตลาด ระดับแนวหน้า ที่หาคู่แข่งได้ยากมากๆ จนทำให้มีราคาสูง หรือหากมีจากแหล่งอื่น ผลผลิตที่ได้ก็อาจแตกต่างออกไป ไม่เหมือนดั้งเดิม
นายหวันอาหลี ปะดุกา อายุ 60 ปี เกษตรกร ในหมู่บ้านเกาะหมากสุก ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นอีกคนหนึ่งที่ปลูกส้มโชกุน จนมีผลผลิตออกสู่ตลาด พร้อมด้วยรสชาติที่อร่อย หอม หวานอมเปรี้ยว จนเป็นที่ติดใจของลูกค้า ทั้งๆที่อยู่ห่างไกลจากถิ่นเดิม ( ดูเส้นทางไปสวน ) https://goo.gl/maps/xB81fbNMQEifyfNj6
เริ่มปลูกส้มโชกุนมานานแค่ไหน และดูแลยังไงบ้าง
นายหวันอาหลี บอกว่าปลูกมาประมาณ 6 ปี โดยซื้อกิ่งพันธุ์ มาจากสวนใน อ.เบตง ปลูกในเนื้อที่ 7 ไร่เศษ ระยะห่าง 5 คูณ 6 เมตร รวม 450 ต้น โดยที่ไม่ได้มีความรู้พื้นฐานอะไร อาศัยเพียงสอบถามจากเพื่อนๆ ทำการดูแลรักษา
“พอต้นส้มอายุได้ประมาณ 4 ปี ก็เริ่มให้ผลผลิต ทั้งนี้ไม่ได้ดูแล หรือบำรุงอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่ตัดแต่งกิ่ง ใส่ปุ๋ย เน้นประเภทชีวภาพ ไม่ฉีดยาฆ่าแมลง จนนำออกขายในตลาดได้ และมีลูกค้าบอกว่าอร่อยกว่าที่เบตง เลยทีเดียว”
ด้านนายพีรณัฐ หมัดประสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ช่วย ดูแลสวน บอกว่าก่อนนี้ นำส้มไปขาย ตามตลาดต่างๆ แต่หลังจากมี โรคโควิดฯระบาด ก็เลยเปลี่ยนวิธี โดยใช้ โลกโซเชียลแทน มีการแนะนำ ในกลุ่มเพื่อนๆ จนเป็นที่รู้จัก และส่วนใหญ่ จะเข้ามาซื้อถึงที่สวน 
กลยุทธ์ด้านการตลาด
“คือเราแนะนำ ในกลุ่มเพื่อนๆก่อน หลังจากนั้นก็มีการบอกปากต่อปาก จนมีลูกค้าเดินทางมาจำนวนมาก ทั้งนี้เราจะให้ผู้ซื้อเข้าไปเก็บเองในสวน พอใจจะเก็บลูกไหน กินลูกไหนก็เก็บเลย อนาคตอาจทำเป็น บุฟเฟ่ต์ หรือทำเป็น จุดเช็คอิน ทั้งนี้อย่างที่บอก ด้วยรสชาติที่ หอม หวาน อมเปรี้ยว เหมือนกับที่เบตง เชื่อว่าจะทำให้ลูกค้า ที่ชื่นชอบรับประทาน ส้มโชกุน ต้องแวะมาที่นี่แทน “
สำหรับส้มโชกุน ที่สวนแห่งนี้ จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ถึงประมาณเดือนมีนาคม และถึงแม้จะให้ผลผลิต เฉลี่ยปีละครั้ง แต่สามารถทำรายได้ปีละ ไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทเลยทีเดียว ใครชอบรับประทาน ซื้อเป็นของฝาก หรืออยากเข้าไปเก็บเอง ที่สวน ติดต่อได้ที่ โทร 081-326 – 2498 , 080 – 004 – 8959 และ 061 – 243 – 9890 หรือติดต่อทางเฟซบุ๊ก ณัฏฐ์สิทธิ์ หมัดประสิทธิ์ เลยครับ https://www.facebook.com/peeranat.madprasit ราคาขายตามขนาด ตั้งแต่ กก.ละ 30 – 70 บาท อร่อยถูกใจ ไม่มีสารเคมี และที่สำคัญไม่ต้องไปไกลถึง อ.เบตง
