สงขลา-สะเดา ทัพเรือภาคที่ 2 จับกุมเรือประมงเวียดนาม 3 ลำพร้อมลูกเรือ 15 คนขณะรุกล้ำแดน ลักลอบเข้ามาทำการประมงคราดปลิงทะเล ในเขตทะเลไทย
1 เม.ย.65 เวลาประมาณ 07.30 น. พลเรือตรี วิจิตร ศรีรุ่งเรือง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 แถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนาม ซึ่งทัพเรือภาคที่ 2 ได้รับแจ้งเบาะแส จากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมาย ในน่านน้ำไทย เขตทะเลน่านน้ำ จ.ปัตตานี บริเวณ แบริ่ง 070 ระยะ 65.5ไมล์ทะเล จากทุ่นไฟปากร่องสงขลา ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำภายใน
พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงคลองใหญ่ ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยในวันที่ 31 มี.ค. 65 เวลา 07.30 น. เรือหลวงคลองใหญ่ ได้ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 3 ลำ กำลังลักลอบทำการประมง โดยการคราดปลิงทะเล จึงได้ทำการจับกุม เรือประมงเวียดนามทั้งหมด และลูกเรือรวม 15 คน
จากการตรวจสอบสอบสวนเบื้องต้น ภายหลังจับกุม พบว่าเรือออกมาจากเมือง กาเมา ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 26 มี.ค.65 โดยทำการประมงมาแล้ว 5 วัน จึงได้ควบคุมเรือ พร้อมลูกเรือทั้งหมด มาทำการสอบสวน ที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม และตรวจหาเชื้อโควิด-19 และส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เนื่องจากเป็นการจับกุม ในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 4 ข้อหา ดังนี้
1.ใช้เรือประมงไร้สัญชาติ ทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 10 )2. ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 )
3. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 )
4. เป็นคนต่างด้าวร่วมกันทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482)
สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติ ในพื้นที่ ทัพเรือภาคที่ 2 ในปีงบประมาณ 2565 การจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 รวมเรือทั้งหมด 9 ลำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือรวม จำนวน 42 คน ทัพเรือภาคที่ 2 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า “ในพื้นที่รับผิดชอบของ ทัพเรือภาคที่ 2 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 113,275 ตารางกิโลเมตร นั้น เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล อย่างเต็มความสามารถ”
