สงขลา-สะเดา “ปะเลอะปะเต๋อ” ศูนย์รวมความอร่อย ของน้ำพริกหลากเมนู พร้อมด้วยรสชาติที่เข้มข้น จัดจ้าน จนถูกปากของคนกิน ด้วยสูตรลับดั้งเดิมตกทอด บวกกับวัตถุดิบเกรดเอ และเทคนิคใหม่ๆ ความฝันที่เป็นจริง ของกลุ่มหนุ่มสาววัยทำงาน ที่วันนี้พัฒนา กลายเป็น “วิสาหกิจชุมชม” กระจายรายได้ สู่ท้องถิ่น (มีคลิป)
จากความฝันของ 3 หนุ่มสาววัยทำงาน ประกอบด้วยนายฉกรรจ์ ขวัญแก้ว นายภานุดล สุนทรปิติกร และนางสาวปัญจรัตน์ สิริโพธิวงศ์ ซึ่งก่อนหน้านั้น ในปี 61 กระแสโซเชียล และแพลตฟอร์มการขายต่างๆ กำลังเป็นที่รู้จัก ทั้ง 3 คนเลยปรึกษากันว่าจะทำอะไรดี เพื่อสร้างรายได้ จนได้ความคิดว่า จะทำน้ำพริกขาย ด้วยเหตุผลที่ว่าทำไม่ยาก วัตถุดิบค่อนข้างหาง่าย ภายใต้ชื่อ “ปะเลอะปะเต๋อ” ( ภาษาเหนือ ) ที่แปลว่าเยอะแยะ มากมาย ซึ่งหมายถึงน้ำพริก ที่มีหลายเมนูนั่นเอง
ฉกรรจ์ ขวัญแก้ว บอกว่าได้มีการต่อยอด สร้างโรงงานเล็กๆ พร้อมจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชม น้ำพริกปะเลอะปะเต๋อ ตัวเองเป็นประธาน มีพนักงานเพิ่มขึ้น โดยพัฒนาน้ำพริก หลายเมนู เช่นน้ำพริกไตปลาแห้ง น้ำพริกปลาหมึก 3 รส น้ำพริกนรกปลาย่าง น้ำพริกตาแดง น้ำพริกกุ้งเสียบ น้ำพริกแจ๋วบองสมุนไพร ซึ่งเมนูทั้งหมด ที่เป็นไฮไลท์ขายดีตลอดมา คือ น้ำพริกไตปลาแห้ง
อลังการเนื้อปลา
ที่วันนี้ทีมข่าวมีโอกาส ได้ติดตามขั้นตอน ของความอร่อย ที่เริ่มด้วยการเจียวใบมะกรูด ในน้ำมันให้หอม ใส่พริกแกงที่เตรียมไว้ลงไป ผัดให้แห้ง แล้วใส่น้ำไตปลา ตามด้วยใส่เนื้อปลา ที่แกะเตรียมไว้ ผัดให้เข้ากันประมาณ 10 นาที ซึ่งกลิ่นจะหอมฟุ้ง( จนน้ำลายสอเลยที่เดียว ) ก่อนนำไปบรรจุ ในกระปุกขนาด 140 กรัม ที่เตรียมไว้ ซีลฝาด้วยเครื่อง ติดสลาก วันหมดอายุ ตามลำดับ เป็นอันเสร็จ ( เหมือนจะง่าย )
สูตรลับความอร่อยของน้ำพริกไตปลา
คุณฉกรรจ์ บอกว่า น้ำพริกไตปลา ปะเลอะปะเต๋อ มีสูตรเฉพาะความอร่อย ด้วยพริกแกง ที่เป็นสูตรของคุณยาย ซึ่งเป็นคนพื้นที่คนใต้ ดั้งเดิม รสชาติพริกแกง จะมีความเผ็ดจัดจ้าน และหอม ผัดในน้ำมันมะพร้าว ทั้งนี้เพื่อสุขภาพ ไม่เหม็นหืน ส่วนไตปลาจะใช้ ไตปลาช่อน ผสมกับ ไตปลาจวด ปลาซาบะ ที่ย่างจนหอม แกะเอาเฉพาะเนื้อเท่านั้น ( หนังปลา ) ก็ไม่เอา ( ต้องบอกว่าอลังการเนื้อปลา ใส่เยอะมาก )
หลากเมนู อร่อยทั้งนั้น
ซึ่งเราการันตีความอร่อยสะอาด ( ผ่าน อย.แล้ว ) ด้วยวัตถุดิบเกรดเอ หลายอย่าง จะไปเลือกซื้อกันเอง อย่างเช่นกุ้งเสียบจะเลือกใช้ที่ไม่ผสมสี แม้จะมีต้นทุนสูง แต่แลกกับคุณภาพ และรสชาติที่ดีกว่าก็ต้องยอม ซึ่งราคาขาย ราคาเท่ากันทุกเมนูคือกระปุกละ 49 บาท แม้ช่วงนี้ราคาวัตถุดิบ จะปรับสูงขึ้นเกือบทุกอย่าง แต่ทางเรายังไม่พร้อม ที่จะปรับราคาขึ้นตาม
เครื่องมือทันสมัย
ด้วยรสชาติ และปริมาณ ความสะดวก ในการพกพา บรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย ( กระปุกแบบดึงฝาเปิด ) สามารถเก็บไว้ได้นาน โดยอุณหภูมิปกติ 1 เดือน เก็บในตู้เย็น 3 เดือน และเก็บได้เป็นปี หากเก็บในช่องฟรีซ จึงเป็นสินค้า ที่น่าสนใจ ทั้งนี้คุณฉกรรจ์ฯ บอกว่ากระแสตอบรับ จากลูกค้าดีมาก อย่างเช่น เมนูน้ำพริกแจ่วบองสมุนไพร มีลูกค้าชมว่า รสชาติเหมือนกับทางบ้านเขาจริงๆ
ใส่กระปุกพกพาง่าย
ซึ่งการทำน้ำพริกของเรา เป็นการกระจายรายได้ สู่ชุมชนอีกทางหนึ่ง เพราะมีการจ้าง พนักงานในพื้นที่ แต่สลับกันมาวันละ 4-5 คน เพื่อหลีกเลี่ยง การแพร่กระจายของ โรคโควิดฯ ( มีการตรวจวัดไข้ ล้างมือทุกครั้ง ) วัตถุดิบ ข่า ตะไคร้ พริก ใบมะกรูด จะรับซื้อ จากชาวบ้าน ที่ปลูกกันเอง ไร้สารพิษ ใครสนใจ ลองสั่งไปชิมได้ที่เพจ http://WWW.facebook.com/palorpater หรือโทร. 074-085-011 , 093-616-7723 หรือแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada อร่อยคุ้มค่า แน่นอน
