สงขลา – สะเดา ดร.วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อไทย ลุยจังหวัดสงขลา ชูยุทธศาสตร์ พนาเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มรายได้ประชาชนระดับจังหวัด เชื่อว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยทุกคน จะได้รับการสนับสนุน จากพี่น้องประชาชน
25 พ.ค.65 ณ โรงแรม TR Rock Hill อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ดร.วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทยสรุปยุทธศาสตร์ พนาเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มรายได้ประชาชน ระดับจังหวัดให้แก่ กลุ่มอาสาเพื่อไทย ที่เดินทางมาจากภาคต่าง ๆ ในแนวทาง 1-2-3-4 รวม 10 ข้อ คือ 1 นโยบาย 2 ยุทธศาสตร์ 3 กลยุทธ์ 4 แผนปฏิบัติการ
โดยแนวทางการเพิ่มรายได้ประชาชนนั้น มีการนำเสนอแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการ โดยกลุ่มสงขลามหานคร ก่อนเป็นที่แรก และพบว่าในขณะที่พื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศ ที่ได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งมาก เมื่อเทียบกับหลายประเทศ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยว คือ มีพื้นที่ชายทะเลมากกว่า 3,000 กิโลเมตร ในทะเลแปซิฟิก ตั้งแต่อ่าวไทยจนถึงอันดามัน และเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีปริมาณฝนตกเกือบตลอดทั้งปี
รวมทั้งเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ แต่ปรากฏว่าในข้อเท็จจริง พื้นที่ในแต่ละจังหวัด ของประเทศไทยโดยเฉพาะภาคใต้นั้น มีการพัฒนาที่น้อยมาก ทำให้ประชาชนขาดโอกาส ในการสร้างรายได้และเกิดปัญหาหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงมาก จนกระทั่งบางพื้นที่ เช่น อ.หาดใหญ่ ขนานนามตนเองว่า หาดใหญ่ตายแล้ว
ซึ่งจากการสัมมนาแนวทางสร้างยุทธศาสตร์ เพิ่มรายได้ประชาชน ของกลุ่มอาสาเพื่อไทย ได้ประเด็นแนวทางในการแก้ไขปัญหารวม 10 ประเด็น เป็นนโยบาย และยุทธศาสตร์ 1-2-3-4 คือ
1 นโยบายพัฒนาที่ดินทำกิน 2 ยุทธศาสตร์สนับสนุนเม็ดเงินลงทุนในที่ดิน แบ่งเป็น 2.1 ยุทธศาสตร์รัฐสนับสนุนการลงทุนในที่ดินเพื่อเพิ่มรายได้ ให้แก่ภาคประชาชน 2.2. ยุทธศาสตร์พัฒนาการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้เกิดขึ้นในที่ดินของภาคประชาชน 3. กลยุทธ์ดิจิทัลเพิ่มรายได้ 3 ด้าน ดังนี้ 3.1 Metaverse Land 3.2 คริปโทเคอร์เรนซี” (Cryptocurrency) 3.3 NFT (Non fungible Token) ระบบการซื้อขาย สินทรัพย์ที่มีมูลค่าเฉพาะ
4.แผนปฏิบัติการสำคัญที่จะสนับสนุน การทำงานให้แก่ภาคประชาชน 4.1 อส.พท. (อาสาพัฒนาที่ดินทำกิน) เป็นอาสาสมัครที่จัดตั้งขึ้นในแต่ละหมู่บ้าน 4.2. ธนาคารหมู่บ้าน 4.3. ท้องถิ่นสร้างเศรษฐกิจ คือแนวทาง ในการเพิ่มอำนาจให้กับท้องถิ่นสามารถมีบทบาทในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของภาคประชาชน 4.4โลกเสมือน 3 มิติ หรือดิจิทัลทวิน คือการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล จากภาพถ่ายทางอากาศให้เป็นภาพ 3 มิติเพื่อเป็นเครื่องมือ ในการพัฒนาทรัพยากรที่ดินหรือ พัฒนารูปแบบที่ดินสิ่งก่อสร้าง ซึ่งแนวทางทั้งหมดนั้น เป็นรูปแบบของการบูรณาการการทำงาน ตั้งแต่การพัฒนาที่ดินทำกินของประชาชน การนำเทคโนโลยี และนวัตกรรม มาส่งเสริมด้านการยกระดับผลผลิต ด้านเกษตรกรรม เป็นผลิตภัณฑ์อาหารและเป็นสินค้า ในระดับอุตสาหกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีทางการเงิน ที่ช่วยสนับสนุนการลงทุนและสร้างรายได้ ให้แก่ประชาชน จนครบวงจร โดยมีหลักการ ที่เพิ่มอำนาจให้คนในพื้นที่ สามารถพัฒนาทรัพยากร ในท้องถิ่นของตนเองได้
ซึ่งทำให้เกิดกระแสการตอบรับ แนวทางในการพัฒนาเป็นอย่างยิ่ง และมีประชาชนในพื้นที่อาสา เข้าเป็นกลุ่มคณะทำงานกับพรรคเพื่อไทย ในแนวทางการพัฒนาพื้นที่ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ด้าน ดร.วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตอนนี้เรามีแนวทางยุทธศาสตร์นโยบายในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างไร ซึ่งวันนี้ก็มากันประมาณ 11 จังหวัด ที่มรวมตัวกันแล้วก็ได้มีการนำเสนอแล้ว จะกำหนดเป็นยุทธศาตร์นโยบายออกไป ที่จะลงไปดำเนินการ ในทุกพื้นที่ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ส่วนในเรื่องแรกที่เราคุยกัน จะดำเนินการเลย คือการคืนที่ดิน ในส่วนของการทำมาหากิน ที่เป็นของพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ให้พี่น้องประชาชน นำไปมีโอกาสในการพัฒนาสร้างรายได้ พร้อมกับมีเม็ดเงินลงไปให้การสนับสนุน ไม่ใช่แต่ว่าจะให้เพียงที่ดินหรือไม่ให้ มันก็จะไม่มีโอกาสพัฒนาหรือสร้างรายได้ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วครับที่จะคืนสิทธิต่างๆให้กับประชาชน ส่วนพื้นที่ที่จำเป็นต้องอนุรักษ์ไว้ ก็ต้องมีการอนุรักษ์อย่างชัดเจน แต่ส่วนไหนของประชนชน ในการสร้างอาชีพก็ต้องคืนให้กลับไป นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจเพื่อแก้ไขกฎหมาย
เพื่อนำมาพัฒนาจังหวัด หลักการคือคนในพื้นที่ต้องได้ดูแลพื้นที่เอง ไม่ใช่คนจากส่วนกลางที่มาควบคุม ส่วนวันนี้ความพร้อมในการเมือง ก็ต้องเรียนว่าเรามองถึงเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ที่เรามองว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมาแก้ไขแบบจริงจังไม่ใช่ทำไปวันต่อวัน ต้องแก้ไขตั้งแต่กฎหมายโครงสร้างของระบบราชการแผ่นดิน การที่ให้อำนาจกลับคืนไปที่ท้องถิ่นกับคนในพื้นที่ ไม่ใช่มีแต่ถนนหนทาง ไฟฟ้าประปา
ต้องให้ท้องถิ่นมีโอกาสพัฒนาท้องที่ที่ตนอยู่ สร้างรายได้สร้างอาชีพ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน แต่ทุกวันนี้ท้องถิ่นคนในพื้นที่ถูกจำกัดสิทธิ์ แล้วก็ไม่มีโอกาสในการได้พัฒนาตรงนี้เลย และก็จะเกิดการแสวงหาผลประโยชน์บนที่ดินของประชาชนในจังหวัดนั้น ๆ เพราะฉะนั้นต้องเรียนว่า วันนี้ถึงเวลาแล้วครับที่จะคืนอำนาจต่าง ๆ ให้กับประชาชนในจังหวัด
ในส่วนของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด เราใช้คำว่าเป็นอาสาเพื่อไทยทั้งหมด เพื่อไทยยังไม่มีว่าที่ผู้สมัครส.ส.เลย เพราะเราถือว่าตอนนี้ทุกคน ทำงานดูแลพี่น้องประชาชนไปก่อน ยังไม่มีใครบอกว่าเป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส. เพื่อไทย หรือจองตำแหน่ง คนไหนที่พี่น้องประชาชนรัก หรือไว้ใจก็จะมีโอกาสที่จะเป็นผู้สมัครส.ส.ได้
ผมกล้าพูดเลยครับ การเลือกตั้งในอนาคตการเลือกตั้ง ในการใช้เงินซื้อเสียงจะไม่มีผลอีกแล้ว เพราะพี่น้องทราบแล้วครับว่าประชาธิปไตยกินได้คืออะไร ส่วนอาสาพรรคเพื่อไทยในจังหวัดสงขลา มีมากกว่า 20 ท่าน แต่ใครจะได้ขึ้นไปเป็นผู้สมัครนั้น ขึ้นอยู่กับจังหวะและช่วงเวลาการเลือกตั้ง
เมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีการมาคัดเลือกกัน ว่าใครเข้าหาพี่น้องประชาชนดูแลพี่น้องประชาชน หรือได้รับความไว้วางใจที่ดี ก็อาจจะมีการทำโพลล์มาสำรวจภายในพรรค หรือสอบถามคนในพื้นที่นั่นเอง ตอนนี้เรามีความพร้อมมากถึง 99 % เราแบ่งเป็นหลัก ๆ คือการจัดการทรัพยากรและที่ดินของจังหวัด เราจะสร้างรายได้อย่างไร แผนทำงานทำอย่างไร แต่ละพื้นที่ ก็ต้องเป็นคนนำเสนอ ในแต่ละจังหวัดด้วยตนเอง ซึ่งเชื่อมั่นว่าคนที่เป็นว่าผู้สมัคร ของพรรคเพื่อไทยทุกคน จะได้รับการสนับสนุน ของพี่น้องประชาชน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: