สงขลา-สะเดา ชาวบ้านตำบลพะวงร้องสื่อหมดความอดทน หลังเจ้าของธุรกิจเปิดร้านอาหารกึ่งผับ กลางชุมชน ส่งเสียงดังอย่างหนัก เดือดร้อนมากกว่า 10 ครัวเรือน เคยทำหนังสือร้องทุกข์หน่วยงานในพื้นที่ แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นแต่อย่างใด เปิดเสียงดังเหมือนเดิม
ชาวบ้านตำบลพะวงร้องทุกข์สื่อหมดความอดทน หลังหน่วยงานเทศบาลปล่อยให้มีการเปิดผับกลางชุมชน ร่อนหนังสือถึงผู้ว่าฯ สงขลา เรื่องยังเงียบไร้การแก้ไข
27 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้าน ในพื้นที่หมู่ 1 ต.พะวง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่ามีนักธุรกิจ ได้มาเช่าที่ดินเปิดร้านอาหารเป็นแนวกึ่งผับ สร้างความเดือดร้อนเรื่องเปิดเพลงเสียงดังรบกวนอย่างหนัก โดยมีบ้านของชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่โดยรอบได้รับผลกระทบประมาณ 12 หลังคาเรือน ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานเทศบาลตำบลพะวง และหน่วยงานปกครองจังหวัดสงขลา แต่ยังคงได้รับผลกระทบในด้านของเสียงหนักเช่นเดิม
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พบกับกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และนำผู้สื่อข่าวเดินตรวจสอบรอบๆบริเวณร้าน เบื้องต้นพบว่าร้านดังกล่าวชื่อร้าน ชิดลม สงขลา ซึ่งเปิดเป็นแนวกึ่งผับกึ่งร้านอาหาร ส่วนโครงสร้างของร้านได้ใช้สังกะสีมาทำเป็นตัวร้านปิดกั้นเอาไว้ จึงอาจเป็นเหตุให้ไม่สามารถช่วยในการซับเสียงให้อยู่ในวงจำกัดได้ ส่งผลเสียงเพลงดังออกมานอกร้าน ทำให้ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่รอบๆร้านได้รับความเดือดร้อน
ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
ชาวบ้านรายหนึ่ง บอกว่าที่ดินบริเวณที่ตั้งของร้าน เป็นที่ว่างเปล่าที่ให้เช่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นอู่ซ่อมรถ จากอู่ซ่อมรถเปลี่ยนมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว หลังจากนั้นก็เปิดเป็นผับเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งป้าของตนได้ไปพูดคุยเจรจากับทางเทศบาลตำบลพะวง และปกครองจังหวัดสงขลา ซึ่งก็ได้เข้ามาตรวจสอบโดยทางเจ้าของร้านแจ้งว่าจะดำเนินแก้ไข โดยการฉีดโฟมป้องกันเสียงออกจากร้าน แต่ผ่านมาถึงวันนี้ ก็ไม่ดีขึ้น
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ ( แฟ้มภาพ )
ชาวบ้านเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ก็ยังดังกว่าเดิม และชาวบ้านได้ทำหนังสือขอเครื่องวัดเสียงไปยังเทศบาลตำบลพะวง ทางเทศบาลก็ให้ชาวบ้านใช้ตัววัดเสียง โดยการใช้แอพพลิเคชั่นตัววัดเสียง ซึ่งวัดเสียงได้ 80 เดซิเบลขึ้นไป แต่ถ้าเสียงดัง 60 เดซิเบล ชาวบ้านยังพอรับไหว ส่วนเสียงที่ดังรบกวนชาวบ้านบอกว่าจะเป็นเสียงดนตรีสด เสียงกลอง เสียงเบส ซึ่งมันดังมาก อีกทั่งยังมีเสียงกรี๊ดจากคนที่มาเที่ยว เสียงทะเลาะกัน เสียงโวยวาย
ตนและชาวบ้านเข้าใจว่าทางเจ้าของร้านทำธุรกิจ แต่ไม่ควรให้กระทบต่อชาวบ้านในชุมชน ที่อาศัยอยู่รอบๆ จึงอยากให้ทางเจ้าของร้านแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบกับชาวบ้านในชุมชน ทั้งในด้านสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต เพราะเวลาดังกล่าวมันเป็นเวลาพักผ่อนของชาวบ้าน และตื่นเช้ามาก็ต้องไปทำงาน ช่วงที่ผ่านมาชาวบ้านให้โอกาสทางร้านแก้ไข แต่กลับกลายเป็นว่า ทางร้านผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆโดยที่ไม่แก้ไขอย่างจริงจัง
