X

สงขลา “บิ๊กโจ๊ก” สั่งไล่ล่า กลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธครบมือ ชิงตัวผู้ต้องหา-ยาบ้า 2 หมื่นเม็ด

สงขลา-สะเดา  พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล​ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นอำเภอรัตภูมิติดตามความคืบหน้า เหตุกลุ่มคนร้าย 20 คน ดักชิงผู้ต้องหา ก่อนปล้นปืนพกสั้นของฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา จำนวน 5 กระบอกพร้อมยาบ้า 10 มัด รวม 20,000 เม็ด

19 ต.ค.65 ที่ผ่านมากรณี ฝนผ.ศปก.ตร. ได้รับแจ้งจาก สภ.รัตภูมิ ว่าเมื่อเวลาประมาณ 19.45 น. ของวันที่ 18 ต.ค.65  จนท.ฝ่ายปกครอง ได้ทำการล่อซื้อยาบ้า 10 มัด ยาไอซ์ จำนวน 8 กิโลกรัม จากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ ระหว่างเดินทางได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 20 คน พร้อมอาวุธครบมือได้ดักชิง ผู้ต้องหาพร้อมของกลาง และอาวุธปืนของ จนท.ฝ่ายปกครอง จำนวน 5 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดบนถนนนิคมสายโท (ศาลาเขียว) หมู่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

เบื้องต้นจากการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 21.30 น. คืนวันที่ 17 ต.ค. จ่าเอกไพรัช แก้วมณี เจ้าพนักงานปกครอง รอง หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา พร้อม อส.อีก 5 นาย ประกอบด้วย อส. นายเลิศฤทธิ์ ไชยพฤกษ์กุล, นายพิษณุ รัตนอุไร, นายอดิศักดิ์ หวังนิ, นายเฉลิมศักดิ์ ทองหวัง และนายสุทิพงษ์ สุวรรณชาตรี

ได้ทำการล่อซื้อยาบ้า จาก นายธนกร อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ได้ของกลาง ยาบ้า จำนวน 10 มัด ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านควนสะตอ หมู่ที่ 3 ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และได้ให้ นายธนกรทำการล่อซื้อยาเสพติด ซึ่งเป็นไอซ์ อีกจำนวน 8 กิโลกรัม จากนายดำ ไม่ทราบชื่อจริง อยู่ที่ จ.สตูล

โดยนัดส่งมอบของกันในเวลา 19.45 น. ที่บริเวณแยกศาลาเขียว ถนนนิคมสายโท (ศาลาเขียว) หมู่ 11 ตำบลกำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา  โดยใช้รถยนต์ 2 คัน โดยจ่าเอกไพรัช กับ อส.อีก 5 นาย เดินทางไปกับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตชูบิชิ รุ่นมิราช สีดำ ทะเบียน กจ-5064 กรุงเทพมหานคร และให้ อส.สุทธิพงศ์ สุวรรณชาตรี ควบคุมตัว นายธนกร ผู้ต้องหา ไปกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูชุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บษ 8065 เชียงราย ซึ่งเป็นรถของผู้ต้องหา

แต่เมื่อไปถึงจุดนัดพบได้มีรถยนต์ จำนวน 4 คัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซุชุ แคป สีบรอนซ์ มีรั้วกั้นด้านหลัง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คันที่ 2 รถยนต์เก๋งยี่หัอโตโยด้า รุ่นยาริส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถยนต์เก๋ง ฮอนต้าแจ๊ส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และรถยนต์กระบะ ไม่ทราบยี่ห้อ สีและหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอดดักหน้าดักหลังปิดล้อมรถคันของจ่าเอกไพรัช และมีกลุ่มชาย ประมาณ 20 คน มีอาวุธปีนพกสั้นทุกคน และมีอาวุธปืนยาว M4 จำนวน 1 กระบอก ก่อนบังคับให้ทุกคนลงจากรถและให้ถอดเสื้อ และปลดและยึดอาวุธปืนพกประจำกายไป

มีอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ของ จ่าเอกไพรัช อาวุธปืนพกสั้น9มม.1กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน และโทรศัพท์มือถือ2 เครื่อง ของ นายเลิศฤทธิ์ อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืน ของ นายพิษณุ รัตนอุไร อาวุธปืนพกสั้น9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ของ นายอดิศักดิ์ หวังนิ และ อาวุธปืนพกสั้น 9 มม.1กระบอก และได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าเป็นหน่วยใด จ่าเอกไพรัช แจ้งว่า เป็นเจ้าหน้าที่มี บัตร ป.ป.ส.

ล่าสุด พ.ต.อ.ศิรโกศล ปราบกรี ผกก.สภ.รัตภูมิ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน เชิญเจ้าหน้าที่อส. ทั้งหมด พร้อมควบคุมตัว นายธนกร (ผู้ต้องหา) มาดำเนินการสอบปากคำ ก่อนสั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ซึ่งในเวลา 17.00 น. พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.  พร้อมคณะได้เดินทางมาที่ สภ.รัตภูมิ เพื่อประชุมและติดตามความคืบหน้าของคดี โดยมี พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.สส.ภ9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.จว.สงขลา พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.จว.สงขลา และ พ.ต.อ.ศิรโกศล ปราบกรี ผกก.สภ.รัตภูมิ เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุมเกือบ 2 ชม. ก่อนแถลงข่าวสรุปเหตุการณ์เบื้องต้น

พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.  เปิดเผยว่า ชุดฝ่ายปกครองได้ไปจับยาเสพติดแล้วขยายผลมีคนร้ายประมาณ 20 คนพร้อมอาวุธปืนครบมือที่เพื่อชิงเอาตัวผู้ต้องหา คือนายธนกรพร้อมมีการชิงมือถือและอาวุธปืนไปจำนวน 5 กระบอก ซึ่งผบ.ตร.ได้มอบ หมายให้ตนลงมาเรียกประชุมเพื่อเร่งรัดคดีดังกล่าว และจากการสอบปากคำปลัดอำเภอที่เป็นหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดของฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา ก็ให้การยืนยัน

ว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการขยายผลจับกลุ่มผู้ต้องหาค้ายาเสพติด แต่ปรากฏว่าชายฉกรรจ์ได้ล้อมรถผิดคัน เนื่องจากผู้ต้องหาได้อยู่กับเจ้าหน้าที่อีกคันหนึ่งทำให้ได้ไปเพียงโทรศัพท์และอาวุธปืน ของราชการ 5 กระบอก ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด พร้อมกับได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนเร่งรัดตรวจสอบ ไล่กล้องวงจรปิดและสอบพยานในที่เกิดเหตุ แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียด ว่าชายฉกรรจ์ กลุ่มนี้ เป็นคนกลุ่มไหนเพราะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่เป็นผู้เสียหายเพิ่งเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยงานหรือไม่นั้น ก็ยืนยันว่านโยบายของรัฐบาล ปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังและหากพบว่าใครเกี่ยวข้องผบ. ตรก็สั่งการแล้วให้ดำเนินการตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน และเชื่อมั่นว่าจะหนีความจริงไม่พ้นซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ตำรวจชุดสืบสวนเร่งดำเนินการ เก็บพยานหลักฐานพร้อมกับพนักงานสอบสวนก็ให้เร่งสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด และขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานก่อน ทั้งนี้เหตุดังกล่าวเชื่อว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ที่ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ยังไม่มีการซักถามว่าเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ของอำเภอรัตภูมิหรือไม่

ส่วนการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจกับฝ่ายปกครองที่ผ่านมาก็จะมีการประสานงานกันอยู่แล้ว เพราะการปราบปรามยาเสพติดก็เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลอีกทั้งผบ. ตรก็สั่งการให้แต่ละจังหวัดเร่งปราบปรามยาเสพติดด้วยเช่นกัน แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังไม่รู้ในรายละเอียด ทั้งนี้ประเด็นที่ทำให้มั่นใจว่ามีการชิงตัวผู้ต้องหา ก็มาจากคำให้การของปลัดอำเภอเพราะยังมีการชิงเอายาเสพติดไปด้วย เป็นยาบ้า 10 มัด มัดละ 2,000 เม็ด จำนวนทั้งหมด 20,000 เม็ด ซึ่งตอนนี้ขอให้ตำรวจทำงานก่อน มั่นใจว่า ไม่นานจะสามารถจับตัวแก๊งคนร้ายมาดำเนินคดีได้ทั้งหมด

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ภูมริน มหันตมรรค

ภูมริน มหันตมรรค

เคยเป็นสื่อทีวีในฐานะทีมช่างภาพตั้งแต่ยุคเปิดตัว ITV. และทำข่าว นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน และหยุดไปช่วงนึง 4 ปี เนื่องจากย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ กลับมาก็เริ่มใหม่ในสื่อทีวี และ นสพ. จนกระทั่งปัจจุบัน 77 ข่าวเด็ด