สงขลา-สะเดา ทางน้ำถูกสร้างกำแพงบ้านปิดทับ ส่งผลน้ำท่วมขังบ้านเรือนในละแวกใกล้เคียง ได้รับความเดือดร้อนนานนับเดือน ชาวบ้านสุดทนทำหนังสือแจ้งองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ แต่กลับถูกปัดอ้างไม่มีงบ ล่าสุดร้องศูนย์ดำรงธรรม แต่ก็ยังไม่เป็นผล (มีคลิป)
24 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์ จากนายอารีย์ จินดามณี ชาวบ้าน ม.3 ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา ว่า มีการสร้างบ้านและก่อกำแพงทับทางเดินของน้ำ ซึ่งเป็นร่องน้ำธรรมชาติ ส่งผลให้น้ำไม่มีที่ระบาย จนเป็นเหตุให้ท่วมขังบ้านมารดาของตนเอง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ก่อนนำผู้สื่อข่าวไปดูบ้านเลขที่ 148 ม.3 ต.ท่าโพธิ์ตก ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับถนน มีน้ำท่วมขังทั้งบริเวณด้านข้างของตัวบ้าน ด้านหน้าบ้าน
นางมาลี จินดามณี อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นเจ้าบ้านอาศัยอยู่กับมารดาอายุกว่า 80 ปี ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูหลังบ้าน ที่เป็นส่วนของห้องน้ำ พบว่ามีน้ำขังระดับน้ำสูงประมาณกว่าครึ่งเมตร ซึ่งนางมาลีฯบอกว่า “น้ำท่วมน่ะไม่เป็นไร แต่ลำบากตรงที่ไม่สามารถใช้ห้องน้ำได้ ต้องอาศัยใช้ของเพื่อนบ้านลำบากคนแก่ด้วยจะเดินอะไรก็ไม่สะดวก เกือบจะ 2 เดือน ไม่มีใครมาช่วยเหลือ ที่ผ่านมาไม่เคยท่วมแบบนี้ จะท่วมขังไม่นานน้ำก็จะแห้ง แต่ตอนนี้ที่บริเวณหน้าบ้านท่วมขังมากว่า 1 เดือนแล้ว ซึ่งได้แจ้งขอความช่วยเหลือไปตามหน่วยงานแล้ว แต่ไม่มีใครมาดู ”
ส่วนนายอารีย์ฯ ยังได้พาผู้สื่อข่าวไปยังจุดที่มีการสร้างบ้าน พบว่าบ้านกำลังก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ถนนช่วงก่อนถึงที่ก่อสร้างมีน้ำขัง โดยด้านข้างมีการสร้างกำแพงล้อมตัวบ้าน ลักษณะพื้นที่ก่อสร้างสูงกว่าถนนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตัวบ้าน
นายอารีย์ฯ บอกว่า ในส่วนของกำแพงถูกสร้างขี้นบนร่องน้ำเดิม และเป็นการปิดกั้นทางระบายน้ำ ทำให้เมื่อมีในตก น้ำไม่สามารถระบายได้ จนเอ่อไปท่วมที่บ้าน ปกติหากฝนตกหนักสักชั่วโมงสองชั่วโมง พอฝนหยุดก็ประมาณ 1-2 ชั่วโมงน้ำก็จะลด ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการสร้างอาคารทับร่องน้ำสาธารณะ ซึ่งตนเองได้ทำหนังสือไปทาง อบต.ซึ่ง อบต.ไม่สนใจอ้างเพียงว่าไม่มีงบ อย่างไรก็ตามอยากให้นายก อบต.เข้ามาดูแลเพราะชาวบ้านเลือกเข้าไปแล้ว ให้สิทธิ์ให้เสียงท่านในการทำงาน แต่ท่านไม่มาดูแลเลย
“การระบายน้ำตรงนี้ หากไม่มีการสร้างตรงนี้ น้ำก็ไหลปกติเพราะเป็นร่องระบายน้ำมาตั้งแต่สมัยโน้น แต่พอสร้างกำแพงจุดนี้ปัญหาก็เกิดทันที เคยบอกเจ้าของบ้าน ร้องเรียนผู้ใหญ่บ้านอะไรก็แต่ ว่าที่เขาถมที่เขาปิดร่องน้ำอยู่ แต่เขาไม่ยอมไม่ฟังยังสร้างอยู่ การแก้ไข อบต.ต้องจัดงบมาขุดจากจุดนี้ไปถึงปลายน้ำ ระยะทางประมาณ 400 เมตรซึ่งตอนนี้มีการถมที่ปิดทางน้ำไว้หมด หากขุดก็จะแก้ปัญหาได้ เว้นแต่ฝนจะตกหนัก แต่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะลด เพราะก่อนหน้านี้เป็นแบบนั้น “
ทางด้านนายสามาแอล หมอเต๊ะ อายุ 64 ปี ที่ปรึกษาอาวุโส / คณะกรรมการมัสยิดบ้านท่าโพธิ์ ม.3 บอกว่า ที่มัสยิดฯก็ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากมีน้ำขัง และเอ่อล้นในห้องน้ำ ซึ่งเป็นที่ล้างชำระทำความสะอาดก่อนทำพิธีละหมาด ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ แต่หลังจากที่มีการสร้างบ้านและทางน้ำถูกปิด ก็ทำให้มีสภาพอย่างที่เห็น ซึ่งมัสยิดอยู่ห่างจากบริเวณดังกล่าวเกือบ 500 เมตร
