สงขลา-สะเดา โบ๊ต’อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ร่วมพบปะแฟนคลับแฟนพันธุ์แท้ คนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวยันไฟเขียวเป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ เขต 6 จังหวัดสงขลา มีความพร้อม และเชื่อมั่นเต็มที่ท่ามกลางกระแสพรรคที่กำลังมาแรง (มีคลิป)
12 ก.พ.2566 ที่ห้องออร์คิด โรงแรมเอ็มรีสอร์ท เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา กลุ่มแฟนคลับของน้องโบ๊ต นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ที่สนใจการเมืองพร้อมยังติดตามการทำงาน รวมทั้งเป็นสมาชิกในสื่อโซเชียล ‘คนบ้านเรา’ ได้มีการนัดพบ ทำกิจกรรมเล็กๆ เพื่อต้องการเห็นหน้าตัวเป็นๆ และสัมผัสอย่างใกล้ชิด และตอบคำถามที่แฟนพันธุ์แท้ ที่มีข้อสงสัย ข้อข้องใจหรือต้องการให้ไปร่วมกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคมส่วนรวม ในพื้นที่ของ 2 อำเภอ คืออำเภอสะเดาและอำเภอคลองหอยโข่ง ก็จะลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาให้อย่างทันท่วงที
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา ตะเกียงเจ้าพายุเก่า มรดกแห่งเเสงสว่างและเรื่องราว จากอดีตสู่ปัจจุบัน
- ผู้ปกครองพาลูกหลานแจ้งความเอาผิดครูตุ๋ยเด็กในโรงเรียนนับสิบราย
- รวบแล้วครูตุ๋ยเด็กนับสิบราย อ้างเห็นเด็กแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ
- ชาวกันตัง ไม่ทน! จ่อแจ้ง 157 หากตรวจรับงานมิชอบ โครงการปรับภูมิทัศน์ริมท่าน้ำกันตัง-เกาะเนรมิต 73.7 ล้าน…
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ “น้องโบ๊ต” บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอเปิดตัวตรงนี้เลยว่าตัวเองได้รับการอนุมัติจากพรรคพลังประชารัฐให้เป็นตัวแทนในการลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในเขต 6 ของจังหวัดสงขลา ซึ่งที่ผ่านมาตัวเองยังคงลงพื้นที่ รับฟังปัญหาและโชว์วิสัยทัศน์อย่างต่อเนื่องและไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ได้เห็นปัญหาต่างๆมากมายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
มีความมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคพลังประชารัฐในจังหวัดสงขลาได้รับการรับเลือกกลับมาเหมือนเดิม ซึ่งพรรคพลังประชารัฐโดยมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคก็มีความโดดเด่นสามารถขึ้นเป็นนายกในอันดับต้นๆ เป็นกระแสบวกในขณะนี้ โดยใช้สโลแกน ‘ใจบันดาลแรง’ อยู่เหนือความขัดแย้ง
“น้องโบ๊ต” ยังบอกอีกว่านโยบายของพรรคที่จับต้องได้ที่เป็นรูปธรรม ได้แก่นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทซึ่งเป็นนโยบายที่ทำต่อเนื่องทำได้ทันที นโยบายมีน้ำไม่มีแล้ง มีเราไม่มีจน มีที่ดินทำกินไม่มีจนและเร่งออกโฉนดและเปลี่ยนที่ดินสปก.ให้เป็นโฉนด ซึ่งในจังหวัดสงขลาเรื่องน้ำคงไม่ห่วงเพราะท่วมบ่อย แต่ในเรื่องที่ดินคิดว่าตอบโจทย์คนในพื้นที่ที่สุด
ส่วนสาเหตุที่แพ้ในการเลือกตั้งในที่ผ่านมา “น้องโบ๊ต” บอกว่าได้รับบทเรียน มาจากธนาธิปไตย เนื่องจากเป็นคนใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ ยังไม่ได้รับการเรียนรู้ การแพ้ครั้งที่ผ่านมาถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญ ถ้าหากเลือกโบ๊ต จะได้รับผลประโยชน์กับตัวท่านเอง ต่อส่วนรวมและต่อประเทศชาติ ผมเชื่อเหลือเกินว่าคนในพื้นที่ คนบ้านเราก็ยังคงมั่นใจว่าอยากให้คนในพื้นที่เป็นผู้แทน
กับคำถามที่ว่ามีกระแสการย้ายพรรคนั้น “น้องโบ๊ต”บอกตนเองเพิ่งเข้ามาในวงการการเมืองประมาณ 2 ปีเอง อาจจะเป็นด้วยความตั้งใจที่เต็มเปี่ยม อาจจะเป็นคะแนนครั้งที่แล้วซึ่งออกมาสูสี ก็เป็นธรรมดาครับที่มีหลายพรรคมองเห็นว่าถ้าเกิดมีการเลือกตั้งใหญ่ ก็น่าจะมาทาบทามดูบ้าง ในฐานะที่เป็นคนบ้านเรา คนพื้นที่ด้วย ก็ไม่ไขว้เขวนะครับ รับฟัง ยินดี พูดคุย แต่ว่าก็ยังคงอยู่ที่เดิม พรรคพลังประชารัฐครับ น้องโบ๊ตบอกทิ้งท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: