สงขลา-สะเดา แม่ฉุนหนักร้องสื่อฯ ได้รับความอับอาย เหตุลูกสาวขอเปลี่ยนชื่อที่อำเภอ โดนหมายเหตุหากจะเปลี่ยนใหม่ในครั้งหน้า ให้นำใบรับรองแพทย์ ที่ระบุถึงสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ มาแสดงด้วย ย้ำชัดเจนหากครั้งหน้ามาเปลี่ยนเขายังอยู่ก็จะไม่เปลี่ยนให้ (มีคลิป)
27 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นางอนันตา ถิ่นจะนะ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ถนนตลาดใหม่ ซอย 1 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ว่านางสาว ธนัชพร ปัญญานุกิจ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของตนเอง ได้ไปขอทำการเปลี่ยนชื่อ ณ. ที่ว่าการอำเภอสะเดา แต่หลังจากเปลี่ยนชื่อเสร็จถึงกับงง และมีความรู้สึกไม่ดี
เพราะมีใบหมายเหตุ เป็นคำสั่งของนายทะเบียนข้อความระบุว่า ผู้ร้องยืนยันจะกลับมาใช้ชื่อเดิม หากมีการขอเปลี่ยนชื่อในครั้งหน้า ขอให้ผู้ร้องนำใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ เนื่องจากผู้ร้องมีการขอเปลี่ยนชื่อบ่อยครั้ง
ซึ่งนางสาว ธนัชพรฯ เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองเคยเปลี่ยนชื่อมาครั้งเป็นครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2565 และมาขอเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 โดยขอกลับมาใช้ชื่อเดิม ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่มีท่าทีไม่ค่อยอยากเปลี่ยนให้ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนให้ตามที่ต้องการ แต่มีใบหมายเหตุดังกล่าวไว้ด้วย และนายทะเบียนซึ่งเป็นผู้หญิงยังบอกทิ้งท้ายว่า “หากครั้งหน้ามาเปลี่ยนเขายังอยู่ก็จะไม่เปลี่ยนให้” ซึ่งตนเองรู้สึกงง และเสียใจมาก ทั้งๆ ที่ตนเองเปลี่ยนชื่อมาเกือบจะครบ 1 ปี แต่โดนระบุว่าเปลี่ยนบ่อย
นางอนันตาฯ บอกกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า ตอนลูกสาวไปเปลี่ยนชื่อตนเองไม่ได้ไปด้วย แต่ลูกสาวโทรศัพท์มาว่า แม่รู้จักใครบ้าง เพราะดูเหมือนเจ้าหน้าที่ไม่อยากเปลี่ยนให้ แต่สุดท้ายลูกสาวบอกว่าได้เปลี่ยนแล้ว ส่วนชื่อที่เปลี่ยนก่อนหน้านั้น เป็นชื่อที่พระที่ตนเองนับถือตั้งให้ หัวอกคนเป็นแม่ก็อยากให้ลูกพบกับสิ่งดีๆ มีความเจริญในด้านต่างๆ ก็เลยให้ลูกเปบลี่ยน
พอลูกสาวกลับมาถึงที่บ้าน และเล่าให้ฟังว่านายทะเบียนมีหนังสือหมายเหตุไว้ ถึงกับตกใจและโกรธจนตัวสั่น ลูกเราสติดีนะ แต่เขาเขียนมาแบบนี้ไม่ถูกต้อง ไม่ เหมาะสม จึงได้ชวนลูกไปที่อำเภอสะเดาอีกครั้ง เพื่อขอพบนายอำเภอ เพื่อขอให้บอกลูกน้องเค้านะ ให้แก้ตรงที่เขียนสลักหลังไว้ ว่าต่อไปหากจะเปลี่ยนอีกให้ตรวจสภาพจิต เราต้องการแค่นั้น หลังจากที่รออยู่เป็นเวลาพอสมควรก็ไม่ได้พบ
มีเพียงเจ้าหน้าที่บอกให้ไปคุยกับนายทะเบียน ตนเองจึงลงไปพบกับนายทะเบียนคนดังกล่าว จะสอบถามถึงสาเหตุที่เขียนสลักหลังไว้แบบนั้น แต่นายทะเบียนดังกล่าวบอกว่ายังไม่ว่าง และบอกว่าที่เขียนแบบนั้นไม่ได้หมายความว่าลูกคุณบ้า ตนเองเลือดขึ้นหัวเลย และก่อนจะมีการโต้เถียงต่อนายทะเบียนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะถ่ายคลิป ตนเองบอกว่าอย่าถ่ายนะ และก็พาลูกกลับในที่สุด
นาง อนันตาฯ ยังบอกเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่น่าจะบริการประชาชน ลูกสาวตนเองเปลี่ยนชื่อเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และก็มาเปลี่ยนเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา อยากรู้ว่า 1 ปี ถึงเปลี่ยน แบบนี้บ่อยเหรอ มีที่นี่ที่เดียวล่ะมีปัญหา ซึ่งเพื่อนๆหลายคนเคยเล่าว่าเคยเจอ ถึงขนาดบอกว่าเปลี่ยนชื่อที่สะเดายาก ปัญหาเยอะ นาง อนันตาฯ บอกทิ้งท้าย
ทางด้านผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบเอกสาร ที่นางสาวธนัชพรฯ แสดงให้ดูพบว่ามีการระบุข้อความดังกล่าวข้างต้นไว้จริง พร้อมระบุชื่อ ตำแหน่ง ไว้ครบถ้วน แต่สำหรับในช่องที่เว้นไว้สำหรับลงลายมือชื่อ พบว่ายังไม่มีการลงลายมือชื่อหรือลายเซ็นไว้แต่อย่างใด
