สงขลา-สะเดา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย พร้อมประชุมคณะทำงาน เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณด่านศุลกากรสะเดา ด้านภาคเอกชนหวั่นผลกระทบ หากเปิดใช้ด่านใหม่แล้วปิดด่านเก่า
10 ต.ค. 66ที่ผ่านมา นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายรัชฎา จิวาลัย กงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง ร่วมประชุมติดตามโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย และแนวทางการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณด่านศุลกากรสะเดา โดยมีนายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นายเผดิมเดช มั่งคั่ง นายด่านศุลกากรสะเดา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุมพระนิกรบดี อาคารสำนักงานด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ จังหวัดสงขลา
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว หลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า จากการพูดคุยหารือ ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งด่านศุลกากรสะเดา ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา สำนักงานทางหลวงที่ 18 องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น โดยมีข้อเสนอแนะว่า
“ในบางช่วงระยะเวลา ที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย หรือชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาผ่านด่านพรมแดนสะเดา และเกิดปัญหาการจราจรติดขัด ทั้งทางด่านบุคคลที่มีรถส่วนบุคคลเข้า-ออก หรือช่องทางการขนส่งสินค้านั้น ให้ใช้แนวทางการดูแลและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยทางฝั่งไทย ให้ทำการเปิดช่องจราจรเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งให้ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และเปิดช่องจราจรทั้งหมด เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางผ่านด่านอีกทางหนึ่งด้วย”
นอกจากนี้ด่านศุลกากรสะเดา จะใช้วิธีการนำรถขนส่งสินค้าไปพัก ณ ด่านสะเดาแห่งใหม่ ที่กำลังก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการเตรียมการในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ก่อนที่จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในอนาคตอันใกล้ มาเป็นพื้นที่รับรองชั่วคราว เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการระบายนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดหรือเทศกาลสำคัญ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการดำเนินงาน จะต้องมีความเชื่อมโยงกับทางฝั่งมาเลเซีย ซึ่งในวันนี้ทางกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง ก็ได้มาร่วมประชุมหารือ พร้อมทั้งจะนำข้อเสนอแนะดังกล่าวไปเสนอทางฝั่งประเทศมาเลเซีย เพื่อให้การดำเนินงานมีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลายังกล่าวอีกว่า การเจรจาสร้างจุดเชื่อมต่อระหว่างด่านสะเดาแห่งใหม่ กับด่านบูกิตกายูฮิตัม ประเทศมาเลเซีย อยู่ในระหว่างการออกแบบถนนจุดเชื่อมต่อซึ่งด้านทิศตะวันออกของด่านปัจจุบัน เมื่อลงตัวแล้วก็จะมาทำเรื่องตั้งงบประมาณที่จะดำเนินการก่อสร้าง หลังจากนั้นก็อยู่ในส่วนการดำเนินงานของด้านอื่นๆต่อไป
ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวว่ามีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหน ในการเจรจาจุดเชื่อมต่อด่านใหม่ หลังจากที่มีการเจรจามาแล้วหลายรอบแต่ไม่ได้ข้อยุติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาบอกว่า เบื้องต้นทางมาเลเซียก็รับดำเนินการอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าต่างฝ่ายต่างไปดูรายละเอียดแล้วมาตกลงกันอีกทีนึงในเรื่องรายละเอียดที่จะตกลงกันเพิ่มเติม ในส่วนของระดับประเทศ รัฐบาลและกระทรวงต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เจรจาพูดคุยตกลงกันเสร็จหมดแล้ว
ซึ่งนายด่านศุลกากรสะเดาได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ด่านเก่าก็ต้องปิดหลังจากที่มีการดำเนินการเชื่อมต่อด่านใหม่แล้วเสร็จ เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายเปิด 2 ด่านร่วมกัน รวมทั้งงบประมาณในการดำเนินการ แต่จะหาวิธีการที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาผ่านตัวเมืองในระยะยาวต่อไป
ด้าน ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลา กล่าวว่า ภาคเอกชน ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าชายแดน รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมบันเทิง มีความกังวล หากมีการปิดด่านสะเดาเดิม เกรงว่าจะได้รับผลกระทบหากนักท่องเที่ยวไม่ผ่านเมืองท่องเที่ยวบ้านด่านนอก ซึ่งแต่ละปีสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นสูงมาก เราอยากให้ ด่านแห่งใหม่ดำเนินการเฉพาะระบบขนส่งโลจิสติกส์ ส่วนด่านเก่าอยากให้คงไว้สำหรับขนส่ง รถส่วนบุคคล รถนักท่องเที่ยวที่จะใช้เส้นนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ได้ สามารถแยกออกไปโตระหว่างอุตสาหกรรมโลจิสติกส์กับท่องเที่ยว แต่ถ้าปิดด่านเก่าแล้วไปใช้ด่านใหม่ สิ่งที่น่ากังวลก็คือชุมชนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสงขลา ที่ด่านนอกจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: