สงขลา-สะเดา ชาวบ้านขึ้นกรีดยางบนเขาใกล้ชายแดนไทยมาเลเซีย หายตัวไปนานกว่าครึ่งเดือน ลูกชายพร้อมเพื่อนบ้านออกติดตามหา สุดอนาถพบผูกคอตัวเองดับคาป่า ในสภาพเน่าเฟะส่วนศีรษะยังติดอยู่กับเชือกอยู่บนต้นไม้ ท่อนร่างหล่นกองกับพื้นดิน พบประวัติเคยได้รับการบำบัด
19 เมษายน 2567เวลาประมาณ 12.00 น. ร.ต.ท.พงศกร เผ่าชาญณรงค์ พนักงานสอบสวนเวรฯ สภ.สะเดา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีผู้พบศพคนเสียชีวิต อยู่บนเทือกเขาใกล้แนวเขตแดน ประเทศไทยและมาเลเซีย จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนประสานกู้ชีพกู้ภัยไม้ขมเทศบาลเมืองสะเดา และเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สะเดา
ซึ่งการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องลัดเลาะไปตามสวนยางพาราที่ติดแนวป่า ก่อนต้องจอดรถไว้และใช้วิธีเดินเท้าเข้าไป เนื่องจากพื้นที่สูงและลาดชันมาก บริเวณและจุดที่พบศพเขตหมู่ที่ 6 บ้านบางน้ำข้น ตำบลสำนักเเต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พื้นที่เป็นสวนยางพารา แซมด้วยต้นทุเรียน และต้นลองกอง
จุดพบศพมีต้น“รังกับ” ( ภาษาถิ่น ลักษณะเป็นต้นไม้ตระกูลปาล์ม) ทราบชื่อต่อมาคือ นายรออาลี เจ๊ะอุบง อายุ 53 ปี ชาวตำบลสำนักแต้ว ลักษณะศพผูกคอตัวเองด้วยเชือกที่ทำจากกิ่งต้นรังกับ แล้วแขวนกับกิ่งต้นรังกับสูงจากพื้นดินประมาณ 2 เมตร ส่วนหัวยังติดอยู่กับเชือกและกิ่งไม่ ส่วนท่อนล่างหล่นลงมากองกับพื้นในสภาพเน่าเฟะ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ชุดกู้ชีพฯต้องนำใส่ถุงซิปก่อนแบกลงมาอย่างทุลักทุเล
นาย มะแอดี เจ๊ะอุบง อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายและเป็นผู้พบศพคนแรกบอกว่า พ่อออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สะเดา เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ก่อนออกตามหา ซึ่งในวันนี้ได้ชวนชาวบ้านและเพื่อนๆ ออกตามหาอีกครั้ง ซึ่งเมื่อหาจนถึงใกล้จุดพบศพ ได้กลิ่นเหม็น จึงตามกลิ่นไปจนพบพ่อกลายเป็นศพแล้ว
สำหรับพ่อเคยได้รับการบำบัด แต่ไม่หายเป็นปกติ ส่วนสาเหตุที่พ่อผูกคอฆ่าตัวตายคิดว่าคงเครียด ตนเองก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเพราะต้องทำงานที่ต่างจังหวัด เพื่อนบ้านบอกว่าค่อนข้างพูดน้อย และไม่ได้มีปัญหากับใคร สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ทางครอบครัวและญาติๆ ไม่ติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิต โดยจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา ที่ภูมิลำเนาในจังหวัดปัตตานีต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: