สงขลา-สะเดา นายอำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เปิดใจบอกมวลชนที่ต้องการให้ตนเองย้ายออกนอกพื้นที่ มีอคติส่วน ตัว เรื่องขยะและน้ำเสียไม่ใช่ประเด็นหลัก ความจริงเป็นเช่นไรเวลาจะเปิดเผยออกมาเอง ส่วนที่อาจถูกย้ายก็ไม่เป็นไรอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้
แฟ้มภาพ
ประเด็นมวลชนชาวอำเภอคลองหอยโข่งกว่า 200 คน บุกศาลากลางจังหวัดสงขลา กดดันให้ย้าย นายธีระยุทธ นาวีเดล นายอำเภอคลองหอยโข่งออกนอกพื้นที่ อ้างเดือดร้อนกรณีรถขนขยะปล่อยน้ำเสียลงบนถนน ไปสู่เเหล่งน้ำที่จะผลิตน้ำประปา จนไม่สามารถผลิตน้ำประปา จนกระทบพื้นที่หลายหมู่บ้าน ดังที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุด 11 ก.ค. 2567ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายธีระยุทธ นาวีเดล นายอำเภอคลองหอยโข่ง ซึ่งเปิดใจว่าจริงๆเเล้วสาเหตุที่ถูกมวลชน กดดันครั้งนี้มองว่ามาจากความอคติส่วนตัวของล้วนๆ หลักๆมาจากเรื่องการไฟฟ้า ที่ชาวบ้านเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ไฟฟ้าเเรงสูง บริเวณทุ่งเลี้ยงสัตว์ทุ่งยูง มีการจ่ายเงินเวนคืนกว่า 3 ล้านบาท
มีการตรวจสอบพบว่า ในการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมก่อนหน้านี้ ได้มีการนำเอาต้นไม้ ที่ไม่เคยมีอยู่ในพื้นที่ มาคำนวณด้วยจำนวนไม่น้อยจึงร้องเรียนให้ตรวจสอบการจ่ายเงินเยียวยาทั้งโครงการ เนื่องจากเชื่อว่า มีต้นไม้ทิพย์ เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้ต้องออกมาคัดค้าน เพราะหากมีการเข้าใช้พื้นที่ ก็จะเป็นการทำลายหลักฐจาน ในการตรวจสอบว่าไม่มีต้นไม้ ที่อ้างชื่อนำไปคำนวณเป็นค่าช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแต่อย่างใด
ซึ่งมีผู้ที่ได้มาขอหนังสือซึ่งเป็นเอกสารลับ เพื่อไปตรวจสอบ ทั้งนี้เพราะคิดว่าการเวนคืนในครั้งนั้น เป็นการเวนคืนที่ไม่ชอบ เเต่ทางตนเองไม่ได้ให้ไป โดยการเวนคืนมีขึ้นในปี 2562 ซี่งตนยังไม่ได้มาดำรงตำแหน่ง จนเป็นชนวนเกิดความไม่พอใจขึ้น เเละการปิดบ่อดิน ของอดีต สจ.คนหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากพบว่าเป็นบ่อดินดังกล่าวไม่มีการขออนุญาตให้ถูกต้อง และการสั่งปิดตู้วัวชน ที่มีการเล่นการพนัน ซึ่งมีนักเล่นการพนันจำนวน 2-3 ร้อยคนต่อวัน (ของกำนันคนหนึ่ง)
ส่วนสาเหตุที่บอกว่ามีการไล่ออกจากที่ประชุมนั้น นายอำเภอบอกว่า ในวันที่มีการประชุม กำนันได้พูดถึงกรณีขยะเเละน้ำเสีย ซึ่งในความเป็นจริงเรื่องนั้นมีการพูดคุยกันอยู่ในอีกเวที เเต่เหมือนกับคุยกันไม่รู้เรื่อง จึงได้เชิญให้ออกจากที่ประชุมไป
ทั้งนี้ทางฝ่ายที่ถูกให้ออกได้พูดเปรยๆว่าเเบบนี้ลาออกดีกว่า ไม่ได้มีบทบาทอะไร จนมีข้อความลุกลามในสื่อไลน์ บางช่วงบางตอนที่เหมือนการท้าชกต่อย ในความเป็นจริงเป็นเพียงคำพูดเปรียบเปรย เพราะมีข้อความให้ตัวเองรักษาสุขภาพ ซึ่งตนเองบอกว่าสุขภาพดีอยู่เเล้ว ต่อให้สองยกเลย
“มองว่าที่ถูกกดดันให้ย้ายเพราะเขาต้องการเล่นผม ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเขาในเรื่องต่างๆ ยืนยันว่าผมก็ทำงานของผม คนร้องก็มีแผล มาวัดกันว่าเเผลใครจะเยอะกว่า สิ่งที่เขาว่าผม เขาทำกันอยู่เองทั้งนั้น”
หลังจากเป็นข่าวก็มีคนโทรมาสอบถาม เเละพร้อมที่จะนำมวลชนส่วนใหญ่มาเเสดงพลังหรือให้กำลังใจ 4-5 พันคน เเต่ตนเองได้ห้ามไว้ เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต เวลาจะตัดสินทุกอย่างเอง
อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ ว่าตนเองอาจจะต้องโดนย้ายออกนอกพื้นที่ ตรงนี้ก็ไม่เป็นไร คนทำงานอยู่ตรงไหนก็ได้ อายุราชการยังมีอีก 3-4 ปี ไม่ได้ตั้งใจจะมาเกษียณที่นี่ เพราะจะให้ผมปิดตาทำตามเขา ผมทำไม่ได้ มันไม่ใช่ผม
มวลชนก็เป็นการจัดตั้ง จริงๆเเล้วมีไม่กี่คนหรอก เเต่ถามว่าจะเคลื่อนไหวอะไรเป็นการตอบโต้หรือไม่ ไม่นะเพราะทางผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็มีนโยบายให้เงียบไว้ เพื่อลดความขัดเเย้งกับมวลชนในพื้นที่
ส่วนประเด็นหลักเกี่ยวกับเรื่องขยะ น้ำเสีย ก่อนหน้านั้นในพื้นที่มีบ่อขยะอยู่ตามปกติ แต่เมื่อก่อนช่วงสงกรานต์ ได้มีการนำขยะจากอำเภอหาดใหญ่มาทิ้งในพื้นที่ด้วย วันละ 250 ตัน รถขนวันละประมาณ 60 เที่ยว ก็ต้องยอมรับว่าอาจมีน้ำหรือเศษปฏิกูลลงบนถนนจริง
สำหรับการฉีดล้างถนน จนน้ำใหลสู่เส้นทางน้ำที่สำหรับใช้ผลิตน้ำประปานั้น จริงๆน้ำที่ฉีดไม่ได้เยอะขนาดที่จะไหลลงเเหล่งน้ำได้ เขาเอาประเด็นนี้มาเพื่อเล่นผมมากกว่า ที่สำคัญเรื่องขยะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ อบต.โดยตรง อำเภอเเค่ได้รับนโยบายมาให้ประสานกับ อบต.เพื่อทำการแก้ไขเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่ 3 เเละหมู่ 4 ซึ่งเป็นเเหล่งผลิตน้ำประปา พบว่าสภาพน้ำปกติไม่มีกลิ่นหรือฟองอากาศเเต่อย่างใด สอดคล้องกับเอกสารผลตรวจสอบคุณภาพน้ำเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ของ สำนักงานสิ่งเเวดล้อมเเละควบคุมมลพิษ ที่ 16 ระบุว่าตัวอย่างน้ำ ประเภทน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน จากอ่างเก็บน้ำ หมู่ที่ 3 มีเกณฑ์คุณภาพดี ส่วนที่หมู่ที่ 2 คลองโคกเหรียง มีเกณฑ์คุณภาพพอใช้ ส่วนหมู่ที่ 4-5 เกณฑ์คุณภาพน้ำพอใช้
แต่จากการพูดคุยกับชาวบ้านบางส่วนให้ความคิดเห็นว่า การเก็บตัวอย่างน้ำไม่มีการโปร่งใส ซึ่งการมาเก็บตัวอย่างน้ำ เจ้าหน้าที่ฯมาเก็บในเวลากลางคืน เเละตัวอย่างน้ำไม่ใช่เป็นน้ำเดิมที่อยู่ในอ่างซึ่งก่อนนี้มีลักษณะเป็นคราบสนิม เริ่มมีกลิ่นเหม็นที่เชื่อว่าเกิดจากน้ำขยะที่ตกหล่นจากรถขยะที่วิ่งผ่านในพื้นที่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: