สงขลา – สะเดา จัดพิธีบวงสรวงองค์พระพิฆเนศองค์ใหญ่สุดในภาคใต้ ครบรอบ 9 ปี ที่ชายแดนไทยมาเลเซีย อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สายมูหลั่งไหลร่วมพิธีจำนวนมาก พร้อมรับการลงนะหน้าทองจากอาจารย์สักชื่อดัง และรับแจกถุงข้าวสารอาหารแห้งกว่า 300 ชุด
1 กันยายน 2567 ที่เวลาประมาณ 09.09 น.ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงองค์พระพิฆเนศองค์ใหญ่สุดในภาคใต้ เทศบาลตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 9 ปี ของการประดิษฐานองค์พระพิฆเนศองค์นี้
ข่าวน่าสนใจ:
พิธีบวงสรวงในครั้งนี้มีพระครูบัณฑิตธรรมาลังการ เจ้าคณะอำเภอสะเดา เจ้าอาวาสวัดยางทองเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระปลัดสุบิน ธนิสฺสโร เจ้าคณะตำบลสะเดาราม พระครูปลัดสุเมธ รกฺขิตธมมฺโม ดร.( ปู่เสือ) เทวสถานพระพิฆเนศ เป็นประธานสงฆ์ดำเนินการจัดงาน มีนายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
โดยมีผู้บริหารบริษัทเครือ JLT GROUP พร้อมพนักงาน ข้าราชการตำรวจ สภ.สะเดา นักธุรกิจ เจ้าของกิจการต่างๆ พนักงานสถานบันเทิง ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
ซึ่งพิธีบวงสรวงเริ่มต้นด้วยพรามณ์อ่านโองการถวายเครื่องสักการะต่างๆ เช่น พวงมาลัยดอกไม้ ผลไม้ และขนมหวาน โดยเชื่อกันว่าการบูชาพระพิฆเนศจะช่วยขจัดอุปสรรคและนำพาความสำเร็จมาให้ และมีการรำถวายต่อหน้าองค์พระพิฆเนศด้วย พร้อมทั้งมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์
สำหรับองค์พระพิฆเนศหรือ Ganesha องค์นี้ เป็นปางประทานพรโดยผู้สร้างเป็นนักธุรกิจชาวมาเลเซีย ซึ่งเข้ามาประกอบกิจการโรงแรมและสถานบันเทิงในย่านนี้นั่นเอง ซึ่งมีความสูง 30 เมตร หน้าตักกว้าง 20 เมตร มูลค่าการก่อสร้าง กว่า 30 ล้านบาท องค์พระพิฆเนศ รูปลักษณ์สวยสดงดงาม สร้างด้วยโครงสร้างเหล็กถือปูน สีเหลืองอร่าม ตั้งอยู่บนฐานคอนกรีต ขนาดความสูง 10 เมตรชั้นล่างเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปและพระพุทธรูปบูชา โดยใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 1 ปี
นับเป็นองค์พระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ จุดประสงค์สร้างเพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวได้มาสักการะบูชา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนะธรรมอีกแห่งหนึ่ง นอกจากการมาเที่ยวเมืองบันเทิงชายแดนใต้
ซึ่งถือว่าเป็นองค์พระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอสะเดา โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาสักการะองค์พระพิฆเนศเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แหล่งข่าวบอกว่า (ชาวมาเลเซีย) ที่มาขอพรหลายๆคนต่างประสบความสำเร็จในสิ่งที่ขอ แต่ไม่อยากเปิดเผยตัว นอกจากนี้ยังทราบว่าได้มีการบริจากเงินหลักแสน เพื่อบูรณะและทาสีให้ใหม่ทั้งองค์
นอกจากนั้นในพิธียังมีการลงนะหน้าทอง เพื่อความโชคดี เป็นสิริมงคล สำหรับสายมูเตลู โดยอาจารย์หนึ่ง อาจารย์สักยันต์ชื่อดังในเมืองด่านนอก และหลังจากพิธีบวงสรวงเสร็จสิ้นยังมีการแจกทานข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มให้ผู้ที่ยากไร้อีกกว่า 300 ชุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: