สงขลา-สะเดา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน พร้อมรับมืออุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ในช่วงฤดูมรสุม จัดส่งเครื่องจักรลงพื้นที่ ขุดลอก คู คลอง และวัชพืช เพื่อเปิดทางน้ำไหลลงสู่ทะเล
7 ตุลาคม 2567 นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินกรณี อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม ประจำปี 2567 พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภา อบจ.สงขลา รองปลัด หัวหน้าส่วนราชการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ร่วมในพิธีเปิดศูนย์ฯ
ข่าวน่าสนใจ:
พร้อมปล่อยขบวนรถแบ็คโฮคอยาว รถเทรลเลอร์ รถขุด อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรกลในการทำงาน เพื่อออกปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ณ หน้าอาคารศรีเกียรติพัฒน์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยพิบัติ
ตามแผนเผชิญเหตุป้องกัน และแก้ไขปัญหา อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว และที่ประสิทธิภาพทันต่อเหตุการณ์ เพื่อช่วยเหลือเหตุเบื้องต้น ซึ่งจะสามารถลดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง เนื่องจากขณะนี้ภาคใต้กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม
“นายกไพเจน” บอกว่า ทางอบจ.สงขลาได้เปิดศูนย์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม มีการปล่อยเครื่องมือ เครื่องจักร รถขุดและเครื่องสูบน้ำ เหตุเพราะเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนที่ทางภาคใต้ ด้านฝั่งตะวันออกตอนล่างจะมีฝนตกชุก ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่มากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมที่จะช่วยบรรเทาในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้น ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา จึงได้ส่งเครื่องจักรเครื่องมือให้กับท้องถิ่น เพื่อทำการขุดลอกคูคลอง กำจัดวัชพืช เพื่อที่จะเปิดทางน้ำให้น้ำได้ไหลสะดวกขึ้นในกรณีที่ฝนตกหนัก เพื่อให้น้ำได้ไหลลงคลองและออกสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ในพื้นที่ในจังหวัดสงขลา
โดยวันนี้จะส่งไปที่อำเภอหาดใหญ่ อำเภอสิงหนคร อำเภอเมือง อำเภอสะเดา และพื้นที่อำเภอจะนะ ซึ่งก็จะพยายามกระจายรถลงไปในทุกพื้นที่ตามสถานการณ์ และตามความเร่งด่วน ทั้งนี้หากพูดถึงในเรื่องความพร้อม เครื่องจักรหรือรถทุกคันมีความพร้อมแต่สภาพบางคันมีอายุเยอะถ้าเกิดระหว่างปฎิบัติงานเกิดเสีย เราก็จะมีทีมช่างที่จะเข้าไปดำเนินการซ่อมแซมและนำมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คงเป็นพื้นที่ที่อยู่ริมทะเลสาบ เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นพื้นที่รับน้ำจากตอนบน เช่นลุ่มคลองอู่ตะเภาซึ่งรับน้ำจากอำเภอสะเดา อำเภอคลองหอยโข่ง และลงมาที่อำเภอบางกล่ำ อำเภอหาดใหญ่ เพราะฉะนั้นพื้นที่บริเวณนี้จึงจำเป็นที่จะต้องขุดลอกคูคลองเพื่อที่จะกำจัดวัชพืชหรือตะกอนต่างๆที่กีดขวางการระบายน้ำออกให้หมดเพื่อที่จะระบายน้ำให้ลงทะเลได้เร็วที่สุด นายก อบจ.สงขลา บอกทิ้งท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: