สงขลา-สะเดา ขบวนการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซียผ่านด่านชายแดนไทย มาเลเซีย ฟื้นคืนชีพหลังเจ้าหน้าที่เลิกคุมเข้ม รถกระบะ รถ 18 ล้อ วิ่งคึกคักตั้งแต่ด่านเปิดทำการ ยันเวลาปิด ล่าสุดทหารสกัดจับรถหัวลาก 18 ล้อ ดัดแปลงถังขนน้ำมันเถื่อน ทั้งด้านข้างและใต้ท้องส่วนพ่วง คาดบรรจุได้ราว 5 พันลิตร
ขบวนการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจากประเทศมาเลเซีย ผ่านด่านพรมแดนใน อ.สะเดา จ.สงขลา กลับมามีความคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่เงียบเหงาไประยะหนึ่งเหตุเพราะถูกเจ้าเหน้าที่ตั้งด่านตรวจเข้มตั้งแต่ประตูด่าน ยันเส้นทางหลัก
แหล่งข่าวอ้างว่าขบวนการลักลอบขนน้ำมัน มักจะใช้รถกระบะตอนเดียวซึ่งดัดแปลงถังน้ำมันให้มีความจุเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า ว่ากันว่าประมาณ 700-800 ลิตรนอกจากนั้นยังมีรถกระบะแคป และรถ 18 ล้อ ซึ่งติดตั้งถังน้ำมันขนาดใหญ่ความจุถังละประมาณ 1,000 ลิตร บางคันติดตั้งซ้ายขวารวม 2 ถัง หลายๆคันทำฝาครอบถังน้ำมันปกปิดไว้ ขณะที่ส่วนใหญ่ก็เปิดเผยโจ่งแจ้ง
ข่าวน่าสนใจ:
ถังน้ำมันดัดเเปลงซึ่งมองอย่างผิวเผินจะไม่เห็น เพราะอยู่ในส่วนใต้พื้นหางพ่วง
แหล่งข่าวยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า รถเหล่านี้จะเข้าไปขนน้ำมันในประเทศมาเลเซียตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งด่านเปิดทำการตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะสังเกตเห็นรถกระบะวิ่งไล่กันเป็นขบวน รวมทั้งรถ 18 ล้อ
“รถขนน้ำมันเถื่อนโดยเฉพาะรถกระบะ มักจะใช้ความเร็วสูง บางครั้งขับชนิดไม่สนใจใครแซงได้เป็นแซง ไฟสัญญาณจราจรก็ไม่ค่อยสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืนใกล้เวลาด่านฯปิดทำการ นัยว่าต้องทำเวลาให้ทันเที่ยวสุดท้าย”
ถังน้ำมันดัดเเปลง
จากการตรวจสอบผู้สื่อข่าวพบว่าในพื้นที่ อ.สะเดา มีการตั้งเพิงจำหน่ายน้ำมันเถื่อนหลายจุด ส่วนใหญ่จะแบบใสขวดวางโชว์ไว้ ส่วนที่เป็นแกลลอนขนาดบรรจุ 10 ลิตร จะวางหลบสายตาไว้ด้านใน
ทั้งนี้น้ำมันเถื่อนยังมีวางจำหน่ายเกลื่อนเมืองโดยเฉพาะในพื้นที่ท่าเคียน หาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ (ซึ่งตรงนี้แหล่งข่าวบอกว่าไม่เคยปรากฏเป็นภาพข่าวทั้งๆที่เป็นเมืองใหญ่ ตกเป็นข่าวก็จะมีเพียงภาพในพื้นที่ อ.สะเดาทุกครั้ง ) และด้วยราคาที่แตกต่างกันประมาณ 6-7 บาทต่อลิตร ประชาชนจึงนิยมใช้น้ำมันเถื่อนในชีวิตประจำวันกันอย่างแพร่หลาย
มองจากด้านบนจะเห็นร่องรอยการเจาะเพื่องใส่ถังน้ำมัน
อย่างไรก็ดีขบวนการลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ได้หยุดไประยะหนึ่งเพราะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจเข้ม ถึงขนาดนำกำลังไปตรึงไว้ที่บริเวณด่านพรมแดน และตั้งด่านสกัดบนเส้นทางหลัก จนเพิงขายน้ำมันไม่มีน้ำมันขาย ต้องซื้อน้ำมันไทยมาขายแทน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่บ่นว่าหาน้ำมันเติมยาก
สำหรับในระยะนี้เริ่มผ่อนคลาย ขบวนการลักลอบจึงกลับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง โดยอาศัยขนผ่านเส้นทางหลัก และเส้นทางที่เลี่ยงออกไปตามซอยต่างๆ ว่ากันว่าเพื่อไม่ให้มีภาพที่โจ่งครึ่มจนเกินไปนั่นเอง
ลักษณะรถกระบะตอนเดียวที่ขนน้ำมันเถื่อน
ล่าสุดวันนี้ 19 พ.ย.2567 เจ้าหน้าที่ทหารชุดจรยุทธ์หมวดปืนเล็กที่ 2 ร้อย ร.5021 สกัดจับรถหัวลาก 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านเส้นทางถนนกาญจนวนิช บริเวณสะพานระเบิด มุ่งหน้าสู่ อ.สะเดา ก่อนควบคุมรถพร้อมคนขับไว้ได้ที่บริเวณถนนสายสะเดา-ปาดังเบซาร์
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบมีการดัดแปลงถังน้ำมันบริเวณข้างๆรถ 2 ถัง สามารถบรรจุน้ำมันได้ประมาณ 1,600 ลิตร และจากการตรวจสอบโดยละเอียดเจ้าหน้าที่พบว่าที่บริเวณส่วนพ่วง มีการดัดแปลงเสริมถังน้ำมันไว้อย่างแนบเนียน สามารถบรรจุน้ำมันได้อีกจำนวนมาก คาดว่ารวมทั้งหมดประมาณ 5 พันลิตร
บางคันติดตั้งถังน้ำมันกันเห็นๆเเบบนี้
ข้อมูลในเบื้องต้นคนขับรถหัวลากบอกเพียงว่า มีหน้าที่รับจ้างจากเถ้าแก่ขับรถเข้าไปขนน้ำมันมาจากปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในมาเลเซีย ลักษณะเป็นปั๊มมีรั้วสังกะสีล้อมรอบ โดยจะขับกลับมาในประเทศไทยเพื่อนำน้ำมันไปส่งที่ “คอกน้ำมัน”ใกล้ ๆ อำเภอหาดใหญ่ ไม่ทราบว่าน้ำมันมีจำนวนกี่ลิตร
รายงานล่าสุดว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากรสะเดา ได้นำกำลังตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ซึ่งพบว่ารถคันดังกล่าวลักลอบขนน้ำมันดีเซล บรรจุอยู่รวม 3 ถัง ปริมาณน้ำมัน 3,700 ลิตร จึงได้ควบคุมตัวคนขับ พร้อมรถส่งด่านศุลกากรสะเดา เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายศุลกากรต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: