X

สงขลา ตะเกียงเจ้าพายุเก่า มรดกแห่งเเสงสว่างและเรื่องราว จากอดีตสู่ปัจจุบัน

สงขลา-สะเดา หนุ่มใหญ่ชาวอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สะสมตะเกียงเจ้าพายุโบราณ มรดกแห่งแสงสว่างและเรื่องราว มากทั้งราคาและคุณค่าทางจิตใจ

ตะเกียงเจ้าพายุเก่า ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือให้แสงสว่างในอดีต  แต่เป็นมากกว่านั้น  มันคือเครื่องมือที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ เทคโนโลยี และวิถีชีวิตของผู้คนในยุคหนึ่ง  การสะสมตะเกียงเจ้าพายุเก่าจึงไม่ใช่เพียงแค่การสะสมของเก่า แต่เป็นการสะสมเรื่องราว  เป็นการเก็บรักษาประวัติศาสตร์ชิ้นเล็กๆ ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง

คุณค่าทางประวัติศาสตร์และเทคโนโลยี

ตะเกียงเจ้าพายุแต่ละดวง  สะท้อนให้เห็นถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีการให้แสงสว่าง  ตั้งแต่ตะเกียงน้ำมันก๊าดแบบธรรมดา ไปจนถึงตะเกียงที่มีกลไกซับซ้อนมากขึ้น  วัสดุที่ใช้สร้าง  เช่น ทองเหลือง  เหล็กหล่อ  หรือแม้แต่แก้ว  ล้วนบ่งบอกถึงยุคสมัยและเทคโนโลยีการผลิตในขณะนั้น  การศึกษาตะเกียงแต่ละดวง  จึงเปรียบเสมือนการเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ยุคสมัยที่ตะเกียงเหล่านั้นถือกำเนิดขึ้น

คุณ กฤชเดช ทินกร อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 8 บ้านคลองยุ่ง ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นอีกผู้หนึ่งที่ชื่นชอบการเก็บสะสมของเก่า ของโบราณ โดยเฉพาะตะเกียงเจ้าพายุ ซึ่งถูกเก็บรักษาและจัดวางไว้อย่างดี

มีแรงบันดาลใจอย่างไรจึงได้เก็บสะสมตะเกียงเจ้าพายุ

เริ่มต้นตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็เก็บสะสมของเก่ามาเรื่อย แต่จะเป็นพวกแสตมป์ แบงค์ พระเครื่อง ตอนหลังมาที่บ้านเจอตะเกียง (ยี่ห้อผีเสื้อหรือบัตเตอร์ฟลาย) ซึ่งแต่เดิมพื้นฐานที่บ้านจะมีอาชีพปลูกพลู พอตอนค่ำ พ่อจะจุดตะเกียงดวงนี้ (เป็นของปู่ อายุประมาณ 70 ) แล้วนั่งเอาใบพลูมาซ้อนกันเพื่อจะนำไปขายในวันรุ่งขึ้น ผมก็เห็นภาพนี้ติดตาอยู่ในความทรงจำ ผมก็เลยเริ่มเก็บ หลังจากที่ได้ทำงานก็เริ่มค้นคว้าว่าอะไหล่ต่างๆยังมีขายมั๊ย ซึ่งไปเจอร้านขายและรับซ่อมตะเกียง ปรากฏว่าอะไหล่ยังตกค้างหลงเหลืออยู่ ผมก็เลยเอามาฝึกซ่อมจนรู้และเกิดความชำนาญ ทั้งนี้ผมสะสมมาประมาณ 30 ปี มีประมาณ 100 ดวง

ตะเกียงส่วนใหญ่หลักๆมาจากประเทศเยอรมัน พิมพ์นิยมคือยี่ห้อ เปโตแม็กซ์ กับไอด้าหรือบางคนเรียกอิสด้า  ส่วนพื้นๆที่นิยมใช้เกือบทั่วทุกภาคก็คือตะเกียงตราผีเสื้อซึ่งถือเป็นพิมพ์นิยม ซึ่งรุ่นแรกจะมาจากประเทศอังกฤษ แต่ในยุคหลังๆก็มาผลิตอยู่ที่ประเทศฮ่องกง

ที่สะสมอยู่ตอนนี้มียี่ห้ออะไรบ้าง

มียี่ห้อโคลแมน ตัวนี้ช่วงปีที่ผลิตสั้นมากคือผลิตอยู่ไม่กี่ปี อายุประมาณ 60-70 ปี เป็นของประเทศอเมริกา ราคาอยู่ที่หลักหมื่น ด้วยความที่ผลิตมาน้อยจึงทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมทั้งชาวไทย และต่างประเทศ นอกจากนั้นยังมีตะเกียงไส้ผ้ายี่ห้อ ราโย่ หรือเรโอ เป็นของฝั่งอเมริกา อายุประมาณ 60-70 ปีเหมือนกัน แล้วยังมีตะเกียงประเภทลานไส้ผ้า ตะเกียงยี่ห้อนูไรท์ จากประเทศอเมริกา ที่นักสะสมเรียกว่าถังแก๊ส เพราะมีรูปทรงเหมือนกับถังแก๊ส ซึ่งเป็นอีกรุ่นที่หาได้ค่อนข้างยากในกลุ่มนักสะสมจะมีอยู่จำนวนน้อย

ตะเกียงเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งก็มีการนำเข้ามาใช้อย่างแพร่หลาย เพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ จากคำบอกเล่าของพ่อบอกว่าดวงที่ใช้ที่บ้านซื้อมาในราคา 2-3 ร้อยในสมัยนั้น

สิ่งกำหนดที่ให้ตะเกียงมีราคาคืออะไร

ยี่ห้อหรือรุ่นที่นำเข้ามา หากมีน้อยเป็นที่นิยมก็ทำให้ราคาสูง นอกจากนั้นก็เป็นรูปแบบ ความสมบูรณ์ของตะเกียง มีรอยบุบไหม ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสภาพไม่สมบูรณ์เต็มร้อย ต้องนำมาซ่อมมาตกแต่งเพื่อให้สามารถใช้งานได้ นอกจากนั้นต้องดูว่าเป็นของเก่าจริงไหม ส่วนที่ขาดหายมีอะไหล่ไหม ลักษณะเป็นอย่างไร ซึ่งประสบการณ์ในการสะสมจะทำให้รู้ได้

การสะสมตะเกียงมีคุณค่าและสะท้อนถึงอะไรได้บ้าง

ในคุณค่าของตะเกียงทำให้เรานึกย้อนไปในสมัยที่ไม่มีไฟฟ้า ก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนในท้องถิ่นรวมไปถึงกลไกการทำงาน หลักการต่างๆก็เป็นตัวบ่งชี้ถึงการวิวัฒนาการทางความคิดของการออกแบบของคนในยุคนั้น สำหรับคุณค่า ณ ปัจจุบันน่าจะเป็นการอนุรักษ์ตามความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล ในส่วนของราคาไม่มีราคากลางเพราะตะเกียงในปัจจุบันนี้นับว่าเป็นของโบราณ เรื่องราคาไม่สามารถมากำหนดตายตัวได้ ในส่วนของการซื้อหาก็อยู่ที่ความพอใจระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ

และตะเกียงแต่ละที่แต่ละยี่ห้อมันบ่งบอก เหมือนกับเป็นการออกแบบในเชิงนวัตกรรมโดยเฉพาะฝั่งประเทศอังกฤษการออกแบบจะค่อนข้างพิถีพิถันเน้นนำไปทางด้านศิลปะไม่ว่าจะเป็นตัวโครงของตะเกียงเป็นเฉด อะไรประมาณนี้จะใช้ความวิจิตรพิสดารมากกว่าฝั่ง อเมริกา ๆจะเป็นแบบง่ายๆไม่พิถีพิถันมาก

การดูแลรักษา

อย่างใส่น้ำมันไปแล้ว หากเราจุดหรือใช้ไม่หมดต้องและไม่ใช้นานๆ ต้องเอาน้ำมันออกให้หมดถ้าน้ำมันคาถังอยู่และทิ้งไว้นานๆมันจะเป็นยางมะตอย เป็นสนิมเขียว ทำให้กัดเนื้อโลหะทะลุได้ และอย่าให้โดนความชื้น แสงแดด  และอุณหภูมิที่สูง  ควรทำความสะอาดตะเกียงอย่างระมัดระวัง  โดยใช้ผ้าสะอาดและนุ่ม  และควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่อาจทำลายตะเกียง

ความรู้สึกที่ได้สะสมตะเกียง

ก็รู้สึกมีความสุขที่ได้บำรุงรักษาของที่มันที่มันผ่านไป ที่คิดว่าครั้งหนึ่งมันเคยมีคุณค่า เคยมีประโยชน์ กับคนในท้องถิ่นของไทยทั้งที่อยู่ในชนบทและในเมืองในเมื่อมันเลิกใช้ไปแล้วสิ่งเหล่านี้มันก็คงอยู่เมื่อเรานำมาบูรณะซ่อมแซมให้มันใช้งานได้ก็มีความรู้สึกว่ามีความภาคภูมิใจและมีความสุข

ตะเกียงเจ้าพายุเก่าหลายดวง  มีความสวยงามทางศิลปะ  ทั้งในด้านรูปทรง  ลวดลาย  และการตกแต่ง  บางดวงอาจมีการแกะสลัก  หรือประดับตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง  สะท้อนให้เห็นถึงฝีมือและความประณีตของช่างฝีมือในสมัยนั้น  การสะสมตะเกียงจึงเป็นการชื่นชมศิลปะและความงาม  ที่สืบทอดมาจากอดีต

ตะเกียงเจ้าพายุโบราณที่เป็นที่นิยมอันดับต้นๆ

ยี่ห้อผีเสื้อหรือบัตเตอร์ฟลาย จากประเทศอังกฤษและฮ่องกง ราคาอยู่ที่ประมาณ ดวงละ 2 ถึง 3 ห้า ยี่ห้อเปโตรแม็กซ์ จากประเทศเยอรมัน ราคา 2 ถึง 3 พันห้า ยี่ห้อไอด้า จากประเทศเยอรมัน ราคา 2 ถึง 3 พันห้า ยี่ห้อโคลแมน จากประเทศอเมริกา ราคา 5-8 พันบาทหรือถึงหมื่น ยี่ห้อทิวลี่จากประเทศอังกฤษ ราคา 8 พัน ถึงหมื่นกลางๆ  ส่วนที่หายากและราคาแพงสุดนะตอนนี้ เป็นยี่ห้อบานฉาด จากประเทศอังกฤษ ที่ราคาหมื่นปลายๆถึงแสนบาทเลยทีเดียว

 

การสะสมตะเกียงเจ้าพายุเก่า  ไม่ใช่เพียงแค่การสะสมของเก่า  แต่เป็นการสะสมประวัติศาสตร์  ศิลปะ  และความทรงจำ  เป็นการเก็บรักษาสิ่งที่มีคุณค่า  และเป็นการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป  สำหรับผู้ที่สนใจ  การศึกษาค้นคว้า  และการเรียนรู้เกี่ยวกับตะเกียงเจ้าพายุเก่า  จะช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจ  และเพิ่มความเพลิดเพลินในการสะสมได้อย่างมาก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ภูมริน มหันตมรรค

ภูมริน มหันตมรรค

เคยเป็นสื่อทีวีในฐานะทีมช่างภาพตั้งแต่ยุคเปิดตัว ITV. และทำข่าว นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน และหยุดไปช่วงนึง 4 ปี เนื่องจากย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ กลับมาก็เริ่มใหม่ในสื่อทีวี และ นสพ. จนกระทั่งปัจจุบัน 77 ข่าวเด็ด