สงขลา-สะเดา หนุ่มมาเลเซียขับวินจักรยานยนต์ ถูกกลุ่มวินชาวไทยรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บดั้งจมูกหัก บริเวณใกล้ด่านพรมแดนสะเดา คาดเหตุไม่พอใจแย่งชิงผู้โดยสาร สุดซวยถูกทำร้ายผิดคน ขึ้นสถานีตำรวจภูธรสะเดาแจ้งความหวั่นไม่ปลอดภัย
4 ธันวาคม 2567 Mr.WANSHAHRULNIZAM BIN ABDUL RAHMAN อายุ 44 ปี ชาวรัฐเคดะห์ ประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางไปที่ สภ.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ธนนท์ เมืองแคล้ว พนักงานสอบสวนฯ กรณีถูกกลุ่มวินจักรยานยนต์ชาวไทย รุมทำร้ายร่างกายบริเวณใกล้ด่านพรมแดนสะเดา ต.สำนักขาม
ซึ่ง Mr.WANSHAHRULNIZAM BIN ABDUL RAHMAN ให้การกับพนักงานสอบสวน โดยมีล่ามแปลว่าวานนี้ ( 3 ธ.ค. ) เวลาประมาณ 11.30 น. ขณะที่ตนเองชะลอรถอยู่ระหว่างพรมแดนไทย-มาเลเซีย ได้ถูกชายไทยไม่ทราบชื่อ จำนวน 4 คน กระชากตัวตนเองจากประตูเขตแดนไทย-มาเลเซีย ฝั่งประเทศมาเลเซีย แล้วรุมทำร้ายร่างกายฝั่งประเทศไทย
ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไประงับเหตุ ส่วนตนเองได้รับบาดเจ็บ เพื่อนๆได้นำตัวไปส่ง รพ.สะเดา ผลชันสูตรของแพทย์ปรากฏว่า กระดูกจมูกหัก สมควรให้หยุดพักรักษาตัวเป็นเวลา 2 วัน ส่วนตัวเองรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงได้เดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ส่วนที่ประเทศมาเลเซียก็ได้แจ้งความไว้แล้วเช่นกัน
“ ผมมาส่งลูกค้าที่ชายแดนฝั่งมาเลเซีย แล้วมีชายไทย 3-4 คนมาลากตัวเข้าไปฝั่งไทย แล้วก็รุมทำร้ายร่างกาย ซึ่งจำหน้าได้ ส่วนที่มาแจ้งความในวันนี้เพื่อป้องกันตัวไว้ก่อน ส่วนสาเหตุที่ถูกทำร้ายน่าจะเป็นเพราะการเข้าใจผิดแล้วมาลงที่ตนเอง ทั้งนี้ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย ”
ซึ่ง Mr.WANSHAHRULNIZAM BIN ABDUL RAHMAN ได้ชี้จุดที่เกิดเหตุให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นเขต NO MAN’S LAND ระหว่างชายแดนไทย-มาเลเซีย อยู่ข้างประตูด่านด้านขาออกจากมาเลเซีย สู่ประเทศไทย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจดูที่เกิดเหตุก่อนหน้านั้นแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นวันเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คู่กรณีชาวไทย ไปบันทึกประวัติไว้ 1 คน ทราบชื่อคือนายบ่าว ( สงวนชื่อ-นามสกุลจริง ) อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าวิน
มีรายงานเพิ่มเติมว่าปัญหาคิวรถหรือวินรถรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างทั้งสองประเทศ เป็นปัญหามานาน แหล่งข่าวบอกว่าเคยเกิดเหตุในลักษณะนี้หลายครั้ง จนกระทั่งห้างดิวตี้ฟรีในฝั่งประเทศมาเลเซียปิดให้บริการ พื้นที่จอดรถวินของชาวไทยก็ย้ายสถานที่ มีปัญหาซับซ้อนในการรับลูกค้า เกิดการกระทบกระทั่งกันจนเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
และแหล่งข่าวยังบอกว่าการรุมทำร้ายที่เกิดขึ้น เป็นการทำร้ายผิดตัว ในความเป็นจริงเขาต้องการทำร้ายอีกคน ซึ่งสอดคล้องกับ Mr.WANSHAHRULNIZAM BIN ABDUL RAHMAN ที่ให้การก่อนหน้านี้
