สงขลา-สะเดา ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรสะเดา รวบสาวชาวลาววัย 24 ปี แม่ใจยักษ์ นำทารกลูกตัวเองอายุประมาณ 7-8 เดือนห่อผ้ายัดถุงดำ ทิ้งถังขยะ เบื้องต้นยังให้การวกวน รอการสอบสวนและผลพิสูจน์ทางการแพทย์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา
คืบหน้าเหตุคนเก็บของเก่าพบซากทารกในถังขยะ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามเบาะแสจากกล้องวงจรปิด และพยานบุคคลจนนำไปสู่การตรวจค้นห้องพักห้อง C6 ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ซึ่งสงสัยว่าคนเช่าห้องพักเป็นผู้ก่อเหตุพักอาศัย อยู่ห่างจากถังขยะประมาณ 50 เมตร เพื่อนข้างๆห้องบอกว่าผู้เช่าชื่อนางสาวจินดา พบเพียงหลักฐานเสื้อผ้า ตรงกับวันที่ก่อเหตุ ผ้าปูที่นอนซึ่งมีลายเดียวกับที่พบที่ศพเด็กทารก แต่ไร้วี่แววนางสาวจินดาฯ
ในเวลาประมาณ 18.00 น. ( 22 ธ.ค. ) ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรสะเดา ได้ควบคุมตัว น.ส.จินดาฯ อายุ 24 ปี สาวชาวลาว ได้ที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง บริเวณ ซอย 8 ไทย- จังโหลน หลังก่อเหตุนำทารกเพศชาย ลูกของตัวเองที่เพิ่งคลอด ห่อผ้ายัดถุงดำทิ้งลงถังขยะ ภายในซอย ไทย-จังโหลน 12 ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมีคนเก็บของเก่าเป็นผู้เจอศพเมื่อคืนวันที่ 20 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา
เบื้องต้น นางสาวจินดาฯ ซึ่งอยู่ในสภาพอิดโรย สีหน้าตัวซีดเหลือง ยังให้การวกวนบอกแค่ว่าวันที่เกิดเหตุตนเองได้เข้าห้องน้ำ และคลอดเด็กลงไปในถังชักโครก ซึ่งในขณะนั้นเด็กยังเป็นก้อนเลือดอยู่ แต่พอเจ้าหน้าที่ซักถามไปมา ก็ให้การว่าตนเองได้คลอดเด็กลงในถังชักโครก และได้เอาเด็กขึ้นมาจากถังชักโครกและเอาไปนอนที่เตียงนอน
จากนั้นก็ลงไปซื้อนมกล่องฯเพื่อจะนำขึ้นมาให้เด็กกิน แต่พอขึ้นมาที่ห้องอีกทีพบว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว ก็เลยตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงได้นำเด็กห่อผ้าใส่ถุงดำไปทิ้งถังขยะในที่สุด
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ต้องรอการสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากนางสาวจินดาฯ ให้การวกไปวนมาไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง อย่างเช่นเรื่องอายุ บางครั้งบอก 24 บางครั้งบอก 27 ปีโดยไม่มีหลักฐานหรือเอกสารใดๆ แสดง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในพระราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาติ
ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆต้องรอผลชันสูตรจากโรงพยาบาล เพื่อยืนยัน ดีเอ็นเอ ระหว่างทารก และนางสาวจินดา ว่าจะตรงกันหรือไม่ รวมทั้งสาเหตุที่ทำให้ทารกเสียชีวิต เพื่อที่จะได้แจ้งความเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
