สงขลา – ขนมทองพับแม่สายใจ (สะเดา ) หนึ่งเดียวในอำเภอสะเดา ที่ทำส่งขายให้กับร้านค้าในพื้นที่ พร้อมส่งออกประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ มานานกว่า 30 ปี สร้างรายได้เฉลี่ยกว่าวันละหมื่นในช่วงเทศกาลตรุษจีน เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ส่วนผสมต้องเข้มข้น สะอาด เก็บได้นานโดยไม่พึ่งสารกันบูด
ขนมทองพับเป็นขนมไทยๆประเภทขบเคี้ยวมีรสชาติ หวานมัน หอมและกรอบ มีส่วนผสมของแป้ง น้ำตาล กะทิ และไข่ เป็นต้น และด้วยความที่มีชื่อเป็นมงคล จึงนิยมใช้ในงานมงคลต่างๆเช่น งานบวช งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ และช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมนำไปเป็นของไหว้ ของฝาก รวมทั้งชาวจีนในประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ต่างก็นิยมเช่นกัน
นางสายใจ เย็นทั่ว อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ซอยประชาบำรุง 2 ถ.กาญจนวนิช ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลาซึ่งเป็นเจ้าของขนมทองพับแม่สายใจ ( สะเดา ) บอกว่าตนเองยึดอาชีพค้าขายมาตลอด โดยเฉพาะที่ชายแดน อ.สะเดา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์เข้าออก สังเกตว่านักท่องเที่ยวนิยมซื้อขนมไทย กลับไปเป็นของฝากครอบครัว และเพื่อนๆ ซึ่งก่อนนั้นตนเองรับขนมต่างๆ รวมถึงขนมทองพับมาขาย ปรากฎว่าขนมทองพับขายดีจึงมีความคิดว่าน่าจะทำเอง ก็เลยลงมือทำ
ซึ่งช่วงแรกๆก็ช่วยกันทำกับหลาน 2 คน ทำแล้วทิ้งๆไปเยอะเพราะผสมแป้งไม่เป็น ไหม้บ้างอะไรบ้าง แต่ไม่ยอมแพ้ ถามเพื่อนๆที่ทำขนมและนำมาปรับปรุง จนประสบความสำเร็จเป็นสูตรของตัวเอง รวมเวลาที่ทำขนมทองพับขายมาก็ประมาณ 38 ปี กลายเป็นขนมทองพับเจ้าเดียวใน อ.สะเดา มีลูกค้าประจำรับไปขายในตลาดคลองแงะ ทุ่งลุง และลูกค้าที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ที่รับไปขายต่อ
สำหรับขั้นตอนการทำใช้วัตถุดิบแป้งมัน น้ำตาลทรายขาว น้ำกะทิสดทั้งหัวและหาง เกลือ งาดำ งาขาว ไข่ไก่ ในอตราส่วนที่เป็นสูตรเฉพาะ ผสมให้เข้ากันจนได้ที่ แล้วนำแป้งที่ได้ใส่ในขวดพลาสติก นำไปหยอดลงในแป้นพิมพ์บนเตา ซึ่งปัจจุบันใช้เตาไฟฟ้า เพราะสามารถควบคุมความร้อนให้สม่ำเสมอได้ และมีความรวดเร็ว เมื่อได้ที่ก็นำออกมาพับขณะที่ขนมกำลังร้อนๆ ก่อนที่จะนำใส่ภาชนะ แล้วไปคัดใส่ปี๊บบรรจุขนมขนาดต่างๆ
นางสายใจฯยังบอกอีกว่า ขนมทองพับที่ทำมีหลายรสชาติ เช่นขนมทองพับใส้หมูหยอง ไก่หยอง ขนมทองพับรสกะทิ ( ดั้งเดิม ) ขนมทองพับฟักทอง ซึ่งขั้นตอนการทำจะมีความยุ่งยากเพิ่มขึ้น เพราะต้องใช้เนื้อฟักทองที่นึ่งจนสุกมาบดผสมรวมกันกับแป้งก่อน ส่วนการตลาดปัจจุบันนี้ส่งขายให้กับพ่อค้า แม่ค้าเจ้าประจำ ส่วนลูกค้าในต่างประเทศ มาเลย์ หรือสิงคโปร์ เขาจะมาแวะซื้อหลังจากกลับมาจากการท่องเที่ยวในบ้านเรา โดยจะซื้อนำกลับไปกับรถทัวร์เพื่อไปขายต่อ ครั้งละ 70 –100 ปี๊บ
สำหรับขนมทองพับแม่สายใจ ( สะเดา ) มีขนาดบรรจุปี๊บใหญ่ ประมาณ 300 กว่าชิ้น ราคาปี๊บละ 400 บาท และปี๊บขนาดเล็ก ประมาณ 100 กว่าชิ้นราคา 140 บาท ซึ่งเป็นราคาส่ง ในแต่ละวันใช้แรงงานในครอบครัวเริ่มทำตั้งแต่ 06.00 -21.00 น. หรือจนกว่าแป้งที่ผสมในแต่ละครั้งจะหมด เฉลี่ยทำได้วันละ 70 – 100 ปี๊บ นับเป็นรายได้วันละกว่า 1 หมื่นบาท โดยเฉพาะในช่วงก่อน และเทศกาลตรุษจีน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคม ส่วนเคล็ดลับความอร่อยไม่มีอะไรมาก แค่ส่วนผสมต้องเข้มข้น สะอาด ไม่ใส่หรือใช้สารกันบูด ซึ่งขนมทองพับแม่สายใจ ( สะเดา ) สามารถเก็บได้นานถึง 3 – 4 เดือนเลยทีเดียว ( สนใจ โทรสอบถาม 081 – 650 -1719 คุณกุ้ง )
