สงขลา – สะเดา หนุ่มใจบุญ เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือราคาถ้วยละ 10 บาท ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หวังให้คนทุกระดับชั้นได้กิน และลูกน้องมีงานทำ กระแสตอบรับดีเกินคาด ลูกค้าอุดหนุนเต็มร้านทุกวัน
อาหารการกินยุคปัจจุบันนี้ หันไปทางไหนก็มีแต่คนบ่นว่าแพง โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว อ.สะเดา จ.สงขลา และท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่ตกต่ำยาวนาน หาเงินลำบากขึ้น การค้าการขายก็เลยซบเซาตามไปด้วย แต่กลับมีหนุ่มใจบุญพร้อมครอบครัว ได้ทำการสวนกระแส เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือในราคาถ้วยละ 10 บาทขึ้น ซึ่งหลายๆคนพอได้ยินถึงกับทำหน้า งงๆ ว่ามีจริงหรือ เพราะอย่างน้อยเท่าที่มีก็เริ่มที่ 40 บาทเป็นอย่างต่ำ
นายวิวัฒนชัย ธีระปัญญากิตติ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านตั๋นก๋วยเตี๋ยวเรือ 10 บาท บอกว่าจริงๆแล้วมีอาชีพเป็นช่าง อยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งใกล้ๆบ้าน แต่ด้วยความที่ส่วนตัวรวมถึงครอบครัวชอบทำบุญ ก็เลยมาคิดว่าจะทำอะไรกันดี ที่สามารถช่วยเหลือคนอื่นๆได้ สุดท้ายก็เลยคิดทำของกิน ซึ่งเมื่อก่อนเคยมีลูกน้องที่ขายก๋วยเตี๋ยวเรือ จึงตกลงกันว่าจะทำก๋วยเตี๋ยวเรือขาย แต่ด้วยเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จึงมีความคิดที่จะขายในราคาถ้วยละ 10 บาท
อยากให้ทุกคนทุกระดับชั้นได้กินไม่ว่าจะเป็นกรรมกร ชาวสวนยาง เด็กนักเรียน หรือพนักงานบริษัท ข้าราชการต่างๆ ซึ่งราคาก๋วยเตี๋ยวเรือเริ่มที่ถ้วยละ 10 บาท แต่หากใครจะสั่งแบบถ้วยใหญ่ก็มีราคา 20 – 30 -40 และ 50 บาท โดยรวมคนชอบสั่งแบบถ้วยละ 10 บาท เพราะหากจะสั่งเพิ่ม ก็สามารถเปลี่ยนเส้นได้ โดยเฉพาะลูกค้าที่มาเป็นครอบครัวผู้ใหญ่ก็สั่งถ้วยใหญ่กิน เด็กๆก็สั่งถ้วยเล็กทำให้กินหมดไม่เสียของ
ตั้งแต่ร้านเริ่มเปิดเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ถือว่ากระแสตอบรับดีเกินความคาดหมาย ถึงแม้จะมีราคาถูก แต่ปริมาณรวมถึงด้านความอร่อยก็ไม่ธรรมดา สำหรับที่ร้านจะไม่ใช้ผงชูรส น้ำซุปใช้สมุนไพรบวกกับเครื่องตุ๋นยาจีน เคี่ยวนานไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ทำให้มีรสชาติ หอม หวาน ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆจะเน้นความใหม่ และสะอาด เช่นพริก ถั่ว จะคั่วเอง
ใครที่เป็นคนชอบเส้นไปลองกันได้กับร้านตั๋นก๋วยเตี๋ยวเรือ 10 บาท ตั้งอยู่ที่ 77 ถ.ปาดังเบซาร์ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ( ตรงข้ามโรงเรียนเทศบาล 1 บ้านสะเดา ) ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 2 ทุ่ม ทีมข่าวไปลองมาแล้ว 3 คน 6 ถ้วย เพียงแค่ 60 บาท อิ่มและอร่อย สมกับที่เจ้าของร้านบอกว่า มีความภูมิใจที่สามารถทำให้คนอิ่มได้ ในราคาเพียง 10 บาท และนอกจากนั้นคือ การช่วยเหลือให้ลูกน้องมีงานทำ อยู่ร่วมกันได้ในยุคเศรษฐกิจที่ถดถอยเช่นในปัจจุบันนี้
