สงขลา – สะเดา ขนมหวาน“ หลานยายเนื่อง” ชื่อนี้มีแต่ของอร่อยๆ เริ่มจากทำกินกันในครอบครัว จนออกสู่คนที่ชอบขนมหวานแบบไทยๆ ขายผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อนลูกค้าทั้งไทย และมาเลเซียอุดหนุน ช่วงหน้าร้อนยิ่งขายดี รายได้นับพันบาทต่อวัน
ขนมไทย หรือขนมหวานแบบไทย เอกลักษณ์คือความพิถีพิถันในขั้นตอนการทำ มีความสวยงาม รสชาติเข้มข้น อร่อย ใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่ที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งในยุคปัจจุบันขนมหวานแบบไทยแท้ดั้งเดิม เริ่มที่จะหากินได้ยาก เนื่องจากขั้นตอนในการทำที่อาจต้องใช้เวลา และเริ่มมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเสริม เช่นสีจากที่ใช้สีจากธรรมชาติ ก็เปลี่ยนเป็นสีสำหรับผสมอาหาร หรือกล่องภาชนะที่ใส่ก็มักจะเป็นพลาสติก แทนใบตอง
คุณประภัสสร วงษ์สุวรรณ หรือคุณปู อายุ 49 ปี ที่อยู่ 38 ถ.ศูนย์พัฒนาอาชีพ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ทำขนมไทย หรือขนมหวานแบบไทยขาย ซึ่งคุณปูบอกว่าแรกเริ่มจำความได้ก็คลุกคลีอยู่กับขนมไทย เนื่องจากยายและแม่ยึดอาชีพทำขนมไทยขายมาก่อน ยายและแม่ก็จะคอยบอก ว่าขนมอะไรมีวิธทำอย่างไร แต่ไม่เคยลงมือทำด้วยตนเอง ก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะทำขนมไทยได้ จนมีครอบครัววันหนึ่งสามีได้หยิบเอาภาพขนมไทย ซึ่งจำได้ติดตาคือสาคูทรงเครื่อง มาให้ดูแล้วถามว่าทำเป็นมั๊ยอยากกิน
จริงๆก็ไม่อยากให้เสียฟอร์มลูกแม่ค้า เลยตอบไปทันทีว่าสบายมาก จิ๊บๆ แล้วก็ลงมือทำ ด้วยความที่เคยผ่านหูผ่านตามาตั้งแต่เด็กเลยไม่ยาก ทำเสร็จสามีว่าอร่อย แบ่งให้หลานๆก็ว่าอร่อย น่าจะทำขายนะ เลยได้ไอเดียตั้งแต่ตอนนั้น จึงทำขนมหลายอย่าง ลองกินลองชิม แล้วโพสต์ลงสื่อออนไลน์ ปรากฏว่ามีเพื่อนๆและคนที่สนใจ สั่งเข้ามาจำนวนมาก เลยทำจริงๆจังๆ ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้ว ส่วนขนมจะใช้ชื่อว่าขนม “ หลานยายเนื่อง ’’ ตามชื่อของยาย เพราะว่ายายเสียไปหลายปีแล้ว และยายคือผู้ที่ให้ความรู้ในการทำขนมมาตั้งแต่เด็กๆ
สำหรับขนมที่ทำก็เป็นขนมไทย เช่นบัวลอย ฟักทองเผือกมะพร้าวอ่อน ทับทิมกรอบทรงเครื่อง สาคูทรงเครื่อง ข้าวโพดบวช สาคู มะพร้าวอ่อน วุ้นลำไย วุ้นกีวี วุ้นฝอยทอง และขนมหวานอื่นๆอีกหลายชนิด ส่วนเคล็ดลับความอร่อยคือวัตถุดิบทุกอย่างต้องเป็นของดี สดใหม่ และที่สำคัญคือต้องสะอาด โดยเฉพาะในทุกขั้นตอนการทำยังยึดความพิถีพิถัน เช่นน้ำกะทิต้องผ่านความร้อนเพื่อที่จะทำให้เก็บได้โดยไม่เสีย สีของขนมทุกอย่างจะใช้สีจากธรรมชาติ เช่นสีเหลืองจากฟักทอง สีม่วงจากดอกอัญชัน สีเขียวจากใบเตย เป็นต้น
คุณปูบอกว่า ทุกวันนี้เศรษฐกิจไม่ดี ขนมทุกอย่างเลยขายเพียงถ้วยละ 20 บาท ( ถ้วยพลาสติก เพื่อความสะดวก ) เพื่อให้ทุกๆคนสามารถซื้อกินได้ เอาไว้ให้เศรษฐกิจดีกว่านี้ค่อยปรับราคา ส่วนลูกค้าก็เป็นเพื่อนๆ และคนทั่วๆไป ทั้งชาวไทย และมาเลเซียที่ติดใจ ซึ่งจองเข้ามาผ่านทางสื่อออนไลน์ หรือโทรมาบ้าง บางคนก็มารับที่บ้าน หรือบางส่วนสั่งมาเยอะก็จะนำไปส่งให้ นอกจากนี้ด้วยความที่สามีมีอาชีพเป็นตำรวจ เวลามีงานประชุมต่างๆ ก็มีสั่งไปเป็นขนมพักเบรคครั้งละ 60 – 100 ถ้วย ยิ่งหน้าร้อนแบบนี้ยิ่งขายดี ทำให้มีรายได้นับพันบาทต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจ เพราะทำที่บ้านโดยทำกันแค่สองคน สามีก็ช่วยบ้างเล็กๆน้อย ซึ่งเป็นชีวิตที่มีความสุขแบบพอเพียง และยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่งด้วย
