สงขลา-สะเดา ที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ทหาร ฉก.ร.5 ตรวจคนเข้าเมือง และตชด. ร่วมกันตรวจสอบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ต้องสงสัย พบโชเฟอร์คนไทย ลักลอบพาชาวมาเลเซีย ไม่มีหนังสือเดินทางเข้าประเทศ 2 คน ในรถมีทั้งวิทยุสื่อสารเถื่อน และเสื้อกั๊กตำรวจ
เมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ( 31พ.ค. ) ที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ทหารชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสงขลา และตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 437 ( ชฝต.4304 )ได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์เอนกประสงค์ต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ขร – 3895 สงขลา ขณะที่ขับออกมาจากประเทศมาเลเซีย บริเวณด่านพรมแดนสะเดาขาเข้า
ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีการลักลอบนำพาคนต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักร พบคนขับคือ นายอนุชา ณวัสเจริญ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.7 ซ.ไทย-จังโหลน 12 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ส่วนที่ห้องโดยสารด้านหลังพบชาวต่างด้าว 2 คน นั่งหลบอยู่ จากการตรวจสอบพบทั้งสองคน พกบัตรประชาชนประเทศมาเลเซีย ชื่อนายกูนา ซัมปุนาทาน อายุ 33 ปี ( GUNA SAMPUNATAN ) และ นายซูกูมา นาดาราจัน อายุ 46 ปี ( SUGUMAR NADARAJUN ) แต่ไม่มีหนังสือเดินทาง หรือพาสปอร์ตแสดงในการเข้าออกประเทศ
และจากการตรวจค้นรถโดยละเอียด เจ้าหน้าที่พบวิทยุสื่อสาร ( เครื่องดำ ) ยี่ห้อไอคอม รุ่น IC-V90 1 เครื่อง อยู่ในกระชังเก็บของหน้ารถด้านผู้โดยสาร และที่ด้านในสุดหลังรถพบเสื้อกั๊กสะท้อนแสงสีดำ ปักโลโก้ตำรวจ และ POLICE พร้อมเครื่องหมาย แขวนอยู่รวม 2 ตัว
เบื้องต้นได้ควบคุมตัว นายอนุชาฯ และชาวมาเลเซียทั้งสองคนไปสอบสวน และทำบันทึกการจับกุม โดยตั้งข้อหา นายอนุชาฯ 2 ข้อหาในความผิดฐานนำพาคนต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักร หรือการกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการอุปการะ หรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าว ให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และฐานความผิด มี ใช้นำเข้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน 2 ต่างด้าวชาวมาเลเซีย ได้ตั้งข้อหาฐาน เข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่บอกว่า มีการแจ้งจากสายข่าวมาระยะหนึ่งแล้ว ว่านายอนุชาฯ ได้ใช้รถคันดังกล่าว ในการลักลอบนำคนต่างด้าวเข้าประเทศ หรือบางครั้งก็แอบนำสินค้าหลบหนีภาษี เช่นเหล้าและบุหรี่เข้ามา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตาม และเฝ้าดูพฤติกรรม ก่อนที่จะรวบตัวได้ในที่สุด ซึ่งจะควบคุมตัวนายอนุชาฯ และชาวมาเลเซียทั้ง 2 คน พร้อมรถยนต์ และเครื่องวิทยุสื่อสาร ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
