สงขลา – สะเดา กองทัพมดใช้รถเก๋งขับเป็นขบวน ลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ถูกรวบคาจุดตรวจ หน้าหน่วยชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 รวม 4 คัน น้ำมันเบนซินเกือบ 2,000 ลิตร คนขับเป็นผู้หญิงทั้งหมด รับสารภาพจะนำไปส่งให้กับผู้ค้ารายย่อย ภายในเขต อ.สะเดา จ.สงขลา
16 ก.ค.62 พ.อ.วรเดช เดชรักษา ผบ.ร.5 มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารทำการตรวจเข้ม การลักลอบขนสินค้าหรือสิ่งของผิดกฎหมาย ทั้งน้ำมันเถื่อน และการลักลอบนำแรงงานต่างด้าว เข้ามาในพื้นที่ โดยขณะถอนกำลังออกจากบริเวณด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อไปตั้งจุดตรวจจุดสกัด บนถนนกาญจนวนิช สายด่านพรมแดนสะเดา – อ.สะเดา บริเวณหน้าจุดตรวจ หน่วยชุดเฉพาะกิจทหารราบที่ 5
เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรถเก๋ง 4 คัน ขับตามกันมาเป็นขบวนอย่างผิดปกติ จึงได้ส่งสัญญาณให้จอดรถ และทำการตรวจสอบ พบคนขับเป็นผู้หญิงทั้ง 4 คัน ประกอบด้วย 1. นางชฎาพร สุวรรณรัตน์ อายุ 42 ปี 2.น.ส.กาญจนา มู่สา อายุ 33 ปี 3. น.ส.สินีนาฎ ชุมเรือง อายุ 41 ปี ทั้ง 3 คน เป็นชาวอำเภอสะเดา และคนที่ 4 นางวรรณา ยอดนภา อายุ 62 ปี เป็นชาวอำเภอหาดใหญ่
ส่วนรถมียี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ธน 4200 กรุงเทพมหานคร รถโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กต 1351 สงขลา รถโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กท 5912 สุพรรณบุรี และรถฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กข 5242 สตูล
จากการตรวจสอบพบรถมีการดัดแปลงติดตั้งถัง สำหรับบรรจุน้ำมันในที่เก็บของด้านท้ายรถ พร้อมกับมีน้ำมันเบนซินบรรจุแกลลอนสีน้ำเงินขนาด 30 ลิตร และแกลลอนสีเหลืองขนาด 20 ลิตร วางที่ด้านท้ายรถ และภายในห้องโดยสารทุกคัน รวมเป็นจำนวนทั้งหมด 1,820 ลิตร โดยผู้ต้องหาบอกว่า จะนำไปส่งขายให้กับลูกค้ารายย่อย ในเขต อ.สะเดา จ.สงขลา
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว และทำการบันทึกจับกุม พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากรสะเดา เข้าไปควบคุมตัว พร้อมนำของกลางน้ำมันเถื่อน และรถยนต์ ไปดำเนินดคีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ต่อไป
ซึ่ง พ.อ.วรเดช เดชรักษา ผบ.ร.5 บอกว่าการปฏิบัติการกวาดล้าง ปราบปรามสิ่งของผิดกฎหมาย รวมถึงการค้ามนุษย์ ตามแนวพื้นที่ชายแดนที่รับผิดชอบ ทหารชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีวันหยุด ถึงแม้จะไม่มีคำสั่ง คสช.แล้วก็ตาม ซึ่งผู้ที่ลักลอบขนน้ำมันเถื่อน อาจคิดว่าวันนี้เป็นวันหยุดทางศาสนา เจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน จึงพร้อมใจกันมา
สำหรับการลักลอบขนน้ำมันเถื่อน เข้ามาตามแนวชายแดน เนื่องจากส่วนต่างของน้ำมันระหว่างประเทศ มีส่วนต่างกันมาก และประชาชนส่วนใหญ่ก็ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้น้ำมันที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงเป็นที่ต้องการ ทำให้ขบวนการลักลอบขน หรือค้าน้ำมันเถื่อน ยังมีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะปราบปราม หรือกวดขันจับกุมก็ตาม
