สงขลา – สะเดา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนาทวี ยันคดีนายทหารยศร้อยโท ขยี้กามเด็กหญิงวัย 15 ปี ไร้แรงกดดัน อยู่ระหว่างรอหลักฐาน ขั้นตอนผลการตรวจพิสูจน์ของแพทย์ คาดอีกประมาณ 1 สัปดาห์ จะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องศาลได้
จากกรณีอื้อฉาววงการทหาร เหตุนายทหารยศร้อยโท ข่มขืนเด็กหญิงอายุ 15 ปี บุตรสาวจ่าสิบเอกในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ใน อ.นาทวี จ.สงขลา นานเกือบ 6 เดือน จนกลายเป็นข่าว และเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป โดยมีสื่อร่วมติดตามอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ 10 ก.ย. 62 ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.เอกรัฐ สวนแสง ผกก.สภ.นาทวี เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของรูปคดี ซึ่ง ผกก.สภ.นาทวีบอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา แต่ทางแม่ผู้เสียหายเพิ่งมาแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา และได้เลื่อนการให้ปากคำมาเป็นวันที่ 21 ส.ค. โดยทั้งสองฝ่ายได้มาให้ปากคำไว้เป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนของการดำเนินคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหลักฐานพร้อมทุกอย่าง ผู้ต้องหาก็อยู่ระหว่างการฝากขังผลัดที่ 2 เพียงแต่ต้องรอหลักฐาน ผลการพิสูจน์ทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เมื่อทุกอย่างพร้อมก็จะสามารถสรุปสำนวนคดี ส่งฟ้องศาลได้ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา แก่นายทหารยศร้อยโทผู้ก่อเหตุ ในข้อหาข่มขืน พรากผู้เยาว์ และพาไปเพื่อการอนาจาร โดยที่ทางผู้ก่อเหตุได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และบอกเพียงว่าจะให้การในชั้นศาล
คดีนี้อาจถูกมองว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานล่าช้า ก็ต้องขอชี้แจงว่าในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ต้องรอหลักฐาน หรือขั้นตอนผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ ซึ่งจากที่ได้ติดต่อไปในช่วงเช้าวันนี้ ได้รับคำตอบว่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ผลการตรวจพิสูจน์จะเรียบร้อย และคดีนี้ไม่มีการกดดันอะไรจากใคร เจ้าหน้าที่ทำงานตามขั้นตอนปกติ ผกก.สภ.นาทวีบอก
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางหน่อย ( นามสมมุติ ) อายุ 35 ปี ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นภรรยา ของ จ.ส.อ. นายหนึ่ง และเป็นแม่บุญธรรมของ ด.ญ.ฝน ( นามสมมุติ ) อายุ 15 ปี 9 เดือน ได้ร้องเรียนสื่อ และพบกับนายณัฏชนนท์ ศรีก่อเกื้อ สส.จ.สงขลา พร้อมยื่นหนังสือร้องเรียน โดยเล่าว่าเหตุการณ์เกิดตั้งแต่เดือน มี.ค. 62 ซึ่งลูกสาวได้ถูกนายทหารยศร้อยโทคนหนึ่ง ข่มขืนมาเกือบ 6 เดือน
ลูกสาวได้บอกกับตนเองว่า เคยถูกล่อลวงไปข่มขืนในบ้านพักหลายครั้ง แต่ละครั้งจะถูกข่มขืนอย่างทารุณ มีการมัดมือและใช้ผ้าอุดปาก และถ่ายคลิปไว้ หากวันไหนจะมีเพศสัมพันธุ์ก็จะส่งไลน์หาลูกสาว หากไม่ยอมก็จะโดนขู่ว่าเอาคลิปประจาน จนลูกสาวตนเองต้องจำยอมเรื่อยมา
ซึ่งเหตุการณ์ได้เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากครูที่โรงเรียนได้โทรศัพท์มาบอกตนเองว่า มีทหารขับรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีบรอนซ์ มารับลูกสาวที่หน้าโรงเรียนช่วงบ่ายโมงกว่าๆ แต่สังเกตเห็นลักษณะเด็กไม่อยากไป จึงช่วยกันเช็คพบว่าเป็นรถของนายทหารยศร้อยโท และออกตามหา และให้นายทหารคนหนึ่งช่วยโทรตาม จนทราบแน่ชัดว่าลูกสาวอยู่ในรถนายทหารยศร้อยโทดังกล่าวจริง และให้มารับตัวลูกสาวที่หน้าอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ใกล้วัดนาทวี
นางหน่อยยังบอกอีกว่า ได้มีการติดต่อให้ยอมความ โดยจะชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินสด 500,000 บาท พร้อมที่ดินอีก 1 แปลง ราคา 800,000 บาท ซึ่งตนเองและสามี จะไม่รับข้อเสนอใดๆ แม้จะมีคำพูดว่าสู้ไปก็เจ็บตัว หรืออาจถูกย้ายไปที่อื่น ทั้งนี้อยากให้กฎหมายลงโทษคนผิดให้ได้
นอกจากนั้นในวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. สามีตนเองนั่งดื่มเบียร์ที่บ้านพักของเพื่อน ภายในค่ายฯนายทหารคนดังกล่าวก็ได้เดินถือปืนมา และมีการยิงใส่กัน ซึ่งสามีตนเองโดยกระสุนถากเข้าที่บริเวณชายโครงด้านขวา และที่แขน ซึ่งตนเองได้รีบโทรศัพท์แจ้งให้สารวัตรทหาร รีบมาระงับเหตุ และไปแจ้งความที่ สภ.นาทวี ซึ่งในกรณีนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ผกก.สภ.นาทวี ได้รับการชี้แจงว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาพยายามฆ่า ทั้งนายทหารยศร้อยโท และ จ.ส.อ. ไว้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างว่ากันไปตามข้อกฎหมาย และพยานหลักฐาน
