ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราบุรีรัมย์ สุดทนออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งพิจารณาช่วยเหลือกระตุ้นราคายาง พร้อมจ่ายเงินชดเชยไร่ละ 1,500 บาท หลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนักจากราคายางตกต่ำเป็นประวัติการณ์เหลือ ก.ก.12 บาท ขู่สิ้นเดือน ธ.ค.ไม่ได้รับคำตอบจะบุกยื่นหนังสือถึงทำเนียบ หลังยื่นผ่านตัวแทนถึง 4 ครั้งยังเงียบ
(10 ธ.ค.60) ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ สุดทนได้ร่วมกันออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือ โดยการเร่งหาแนวทางกระตุ้นราคายางพาราให้สูงขึ้นอยู่ที่จุดคุ้มทุน พร้อมให้พิจารณาจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือไร่ละ 1,500 บาท ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ หลังประสบปัญหาเดือดร้อนหนักจากภาวะราคายางพาราที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ในรอบกว่า 20 ปี โดยปัจจุบันราคายางก้อนถ้วยอยู่ที่กิโลกรัมละ 12 – 13 บาท ส่วนยางแผ่นดิบเหลือเพียงกิโลกรัมละ 36 บาทเท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางกระตุ้นราคายางก้อนถ้วยไม่ให้ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 30 บาท ยางแผ่นดิบไม่ควรต่ำกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท จึงจะสามารถอยู่รอดได้ เพราะเกษตรกรต้องแบกรับภาระทั้งค่าจ้างกรีด และลงทุนซื้อปุ๋ยบำรุงต้นยาง ซึ่งที่ผ่านมาตัวแทนชาวสวนยางได้ยื่นหนังสือผ่านจังหวัด หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ไปยังกระทรวงเกษตรฯ และรัฐบาลถึง 4 ครั้งแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือนก็จะถึงกำหนดปิดหน้ายางแล้ว แต่ยังไม่ได้คำตอบจากรัฐบาลว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราอย่างไร ซึ่งหากการออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องในครั้งนี้ ยังไม่ได้รับคำตอบถึงแนวทางการช่วยเหลือที่ชัดเจน ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกยางในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ ก็จะเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือกับนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ซึ่งจากข้อมูล อ.โนนสุวรรณ มีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 40,000 ไร่
นางสุพิศ คำเรือง อายุ 66 ปี เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ บอกว่า ปลูกยางทั้งหมด 13 ไร่ ปีนี้ประสบปัญหาเดือดร้อนหนักจากราคายางที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ทำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะจะต้องจ่ายค่าจ้างกรีด และค่าปุ๋ยบำรุงต้นยางอีกด้วย หากราคายางยังตกต่ำอยู่อย่างนี้ ก็จะไม่มีเงินใช้หนี้ ธกส.อย่างแน่นอน จึงอยากร้องขอให้นายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร ก่อนจะถึงกำหนดปีดหน้ายาง
ด้านนายสวาท จำปาสาสว่างวงษ์ ตัวแทนเกษตรกร กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยยื่นหนังสือผ่านจังหวัด และหน่วยงานต่างๆ ถึงรัฐบาลไปแล้วถึง 4 ครั้ง เพื่อให้ช่วยเหลือเรื่องราคายาง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบหรือชี้แจงจากหน่วยงานใด ถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ปลูกยางที่ชัดเจนเลย อีกทั้งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอีก 3 เดือนถึงค่อยคุยเรื่องการแก้ไขปัญหาราคายาง ทำให้ไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะเหลืออีกเพียง 2 เดือนก็จะปิดหน้ายางแล้ว หากไปแก้ปัญหาหลัง 3 เดือนยางก็ตกอยู่ในมือของผู้ประกอบการไปแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือเกษตรกร โดยการพยุงราคายางให้สูงขึ้น และจ่ายชดเชยไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่โดยเร่งด่วนด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: